กลับมาที่กระทู้ของตัวเองก่อนดีกว่า จะได้เอาไว้ทบทวนในวันหน้าได้ค่ะ
เรื่องที่รู้สึกว่าย่ำอยู่กับที่ คือ
การบอกเล่าเรื่องราว เหตุการณ์ ความรู้สึก ต่างๆ น่ะค่ะ
แต่บางครั้ง ก็รู้สึกว่า เอ๊ะ ก็ไม่ได้หลบเลี่ยงนี่นา เล่ารู้เรื่อง
บางเรื่องก็ อะไรหว่า แล้วใช้มุข
จำไม่ได้เนี่ย บ่อยยยยยย มาก
ไม่ได้เกี่ยวกับเหตุการณ์ลืมของนะคะ อันนั้นจะไม่ค่อยได้ไล่ถามเท่าไร
แต่ที่จำไม่ได้ เนี่ย เรื่องราวในระหว่างวันน่ะค่ะ
ฝ่ายแม่ก็อยากรู้มันไปเสียหมด วันนี้เรียนอะไร ชอบวิชาไหน เล่าให้ฟังบ้างซิว่าเรียนอะไร
คือตามตัวตนของแม่น่ะค่ะ กังวลล่วงหน้า กลัวลูกจะตามเนื้อหาวิชาการไม่ทัน ก็ไล่ถาม
พอลูกไม่เล่า ก็เริ่มสติแตก กังวลต่อ เอ๊ะ ลูกจำไม่ได้เนี่ย ไม่มีสมาธิ ในห้องหรือเปล่า หลุดไปโน่นนี่นั่น หรือเปล่า
พอถามหนักเข้า ลูกก็มักตอบ
จำไม่ได้ ไม่รู้ พอเป็นแบบนี้ แม่ไปต่อไม่เป็นก็เลิกถาม
คาดว่า เจ้าตัวแสบก็เลยเรียนรู้ว่า ถ้าตอบแม่ไปแบบนี้แล้ว แม่จะเลิกยุ่ง
ก็เลยใช้เป็นวิธีเลี่ยงคำถามมาตลอด ก็ใช้วิธีนี้มาสักพัก
ต่อมาแม่ก็ถามว่า ที่ตอบไม่รู้อ่ะ ไม่รู้จริงๆ หรือขี้เกียจตอบ ส่วนใหญ่คำตอบที่ได้คือเงียบ
แม่ไม่รู้จะทำอะไรต่อไปอีกพักใหญ่ ต่อมาก็เริ่มแฝงขู่ไป อ๋อ ไม่ตอบ สงสัยจะไม่รู้แน่ๆ
งั้น เรียนพิเศษเพิ่มเอาไหม ก็เหมือนเดิม มีแต่คำตอบว่าไม่เอาเรียนพิเศษ แต่ไม่มีคำตอบสำหรับเรื่องที่ถาม
แม่ก็ปรับคำถามใหม่ เออ ที่ป่านตอบแบบนี้ แม่รู้นะ ว่าป่านไม่อยากตอบ
เขาก็ทำหน้าเขิน แล้วถามว่าแม่รู้ได้ไง แม่ก็ยิ้มแล้วตอบว่า วิธีนี้เขารู้ทันกันหมดแล้ว
แล้วใช่ไหมล่ะ เขาก็รับว่าใช่ แล้วก็ยังไม่เล่าให้ฟังเหมือนเดิม
แต่ เอ พอเขียนไปเขียนมา ก็รู้สึกเหมือนแว่ว ๆ เสียงตัวเองเคยคุยกับเพื่อนคนหนึ่งว่า
ไม่เป็นไร วันนี้ไม่เล่าไม่เป็นไร สักวัน ไม่ถามรุก แล้วเดี๋ยวเขาก็เล่าเอง
แต่พอมาเจอกับตัวเอง จากที่เคยเล่า ไม่ต้องถาม พอแม่ถามแล้วไม่ตอบ
ไอ้ที่เคยเตือนเพื่อนไว้ ก็ชักจะเลือนๆ
ผงเข้าตาตัวเองนี่เขี่ยไม่ออกจริงๆ
เอาเป็นว่า ขอความเห็นว่าควรปรับแก้ตรงไหนดีกว่าค่ะ ทำเองมองไม่ค่อยเห็นตัวเอง