โดย Nong_Pan » พุธ 13 มิ.ย. 2012 11:34 pm
อาจารย์กิ่งแก้วและคุณกรองกาญจน์คะขอบพระคุณสำหรับคำชี้แนะนะคะ ปัณณ์เล่นฟุตบอล บาสเกตบอล ปิงปอง แบดมินตัน สลับกันไปเกือบทุกวันค่ะ แม่เห็นว่าได้เล่นกับเพื่อนด้วย siของลูกด้วย ได้ประโยชน์หลายสถานค่ะและสารภาพและขอโทษค่ะ กระทู้ข้างบนเป็นร่างพิมพ์ไว้นานแล้วค่ะ พิมพ์ไม่เสร็จด้วยตั้งใจจะเอามาแก้ไขพิมพ์ใหม่แต่ผิดพลาดกลายไปตั้งกระทู้ไป อายเหมือนกันค่ะบอกว่าเข้าใจฟลอไทม์ ตอนพิมพ์ขณะนั้นรู้สึกอย่างนั้นจริงๆค่ะเพราะบางครั้งก็รู้สึกเข้าใจใช่เลย บางครั้งกก็ยังคาดคั้นหวังผลลัพธ์ ได้ข้อคิดจากกระทู้คุณกรองกาญจน์มากเหมือนกันค่ะ ตอนนี้พยายามปรับตัวพยายามใช้อารมณ์เหนี่ยวนำอารมณ์อยู่ค่ะและกระทู้นี้ของจริงค่ะ อยากเล่าและถามพัฒนาการลูกช่วงเปิดเทอมค่ะ เปิดเทอมมานี้ลูกเล่าเรื่องโรงเรียนให้ฟังเยอะขึ้นค่ะ ทั้งเรื่องเล่นสนุกกับเพื่อน เรื่องกลัวคุณครูคณิตศาสตร์ กลัวมากกกกกจนไม่กล้าเดินผ่าน กลัวจนนั่งตัวแข็งเวลาครูเดินมาที่โต๊ะ กลัวจนไม่อยากให้ถึงวันอังคารกับวันพุธที่มีวิชานี้ แต่ตอนเล่าหัวเราะไปยิ้มไปนะคะ เรื่องโกรธเสียใจที่เพือนแกล้ง มีทั้งอย่างเบาและอย่างแรงเลยค่ะ ทั้งเอากระเป๋าไปซ่อน ดึงเก้าอี้ออกตอนปัณณ์จะนั่ง ปัณณ์ล้มก้นกระแทก เท้าไปโดนอะไรไม่รู้ เดินกะเผลกกลับบ้าน แต่ลูกเล่าว่าลูกก็ดึงเก้าอี้เพื่อนคืนเหมือนกัน เพื่อนก็ล้มเหมือนกัน เพื่อนจะฟ้องครูค่ะ ปัณณ์บอกว่าถ้าฟ้องปัณณ์ก็ฟ้อง เพราะเพื่อนทำปัณณ์ก่อน เพื่อนเลยไม่ฟ้องครู เพื่อนเทโจ๊กบนโต๊ะปัณณ์ ปัณณ์ก็เอาทิชชู่เช็ดแล้วเอาไปแปะที่โต๊ะเพื่อนที่ทำ เอากล่องดินสอปัณณ์ไป ปัณณ์โวยวายเอาคืน แม่รู้สึกว่าลูกตาต่อตาฟันต่อฟันจังค่ะ ก็คุยกันไปไม่ทำร้ายกัน มีทางอื่นมั๊ย ตกลงจบที่ลูกจะฟ้องครูค่ะ โดยเฉพาะเรื่องขาเจ็บ วันรุ่งขึ้นลูกไปฟ้องครูเลยค่ะ ลูกบอกว่ายังแค้นใจ ตอนเล่าเรื่ิองนี้ลูกร้องไห้ด้วย บอกแม่ว่าไม่อยากถูกทำแบบนี้ ลูกเจ็บ แม่ก็แอบเศร้าค่ะเห็นใจเค้า แต่ สุดท้ายเพื่อนมาขอโทษแล้วให้ปัณณ์กินขนม ลูกเล่าว่าตกลงกับเพื่อนว่าจะเป็นเพื่อนซี้กัน มีกล้าตอบโต้เพื่อนยืนยันความตั้งใจของตัวเองค่ะ เช่นตอนเข้าแถว กางแขนขยายแถวเพื่อนให้ปัณณ์ขยับไปข้างหลัง ปัณณ์ไม่ขยับ บอกว่าให้เพื่อนขยับไปข้างหน้าเองสิ เค้าจะอยู่ตรงนี้แหละ เพื่อนบอกว่าถ้าไม่ขยับจะฟ้องหัวหน้าห้อง ปัณณ์ก็ว่าจะฟ้องครูเหมือนกัน ตกลงเพื่อนเลยต้องขยับ. แม่ดีใจค่ะแม้ว่าจะเป็นสิ่งละอันพันละน้อยก็ตาม ลูกชอบเล่นต่อสู้มากขึ้นค่ะ ทั้งจากที่เค้าเล่าให้ฟังว่าเล่นกับเพื่อนท่ีโรงเรียนหรือเล่นสมมุุติที่บ้านกับแม่. เล่นอยู่ที่บ้านดูลูกกล้าแกล้งกล้าแหย่เพื่อนๆมากขึ้น แต่บางธีมสมมุติลูกยังไม่รับก็เยอะค่ะ เช่นสมมุติให้เค้าบาดเจ็บต้องผ่าตัด ลูกก็หน้าตื่น รีบกินยาสลบแล้วรีบสลบ ของเสียหายเนี่ยยังไม่ยอมเลย ตอนนี้ที่โรงเรียนมีแข่งขันฟุตบอลระหว่างห้องเรียน ลูกสมัครเข้าทีมด้วยค่ะดูลูกตื่นเต้นดีใจ อยากแข่งบอล เค้าว่าเค้าจะเป็นกองกลางส่งบอลให้เพื่อน เค้ายิงประตูไม่เก่ง ก็เอะใจค่ะว่ามันมีอะไรหรือปล่าว คุยไปคุยมาเค้าบอกว่าไม่อยากยิงประตูเพราะถ้ายิงไม่เข้าก็เสียใจแถมเพื่อนในทีมก็โกรธด้วย ส่งลูกให้เพื่อนยิง ยิงไม่เข้าปัณณ์ก็เสียใจนะแต่ไม่โดนโกรธ. แล้วเล่าว่าตอนป1 เคยเล่นบอลกับเพื่อนยิงประตูไม่เข้า เพื่อนไล่ออกจากทีม อีกทีมก็ไม่ให้เล่นเค้าเสียใจมาก เรื่องบอลเค้าขอให้พ่อช่วยเป็นโค้ชให้ทีมเค้าค่ะ. เพราะถ้าพ่อเป็น พ่อจะได้เข้าข้างเค้า เค้าจะได้เป็นตัวจริง ส่วนเรื่องปัญหาต่างๆของลูกก็ยังมากอยู่ค่ะ ค่อยๆแก้ค่อยๆทำอยู่ค่ะ มีเรื่องหนึ่งที่สงสัยค่ะ เรื่องอารมณ์โกรธของลูก บางครั้งแม่ดูลูกน่าจะโกรธ เช่นลูกจะเอาลูกปิงปอง เพื่อนไม่ให้ล่อไปล่อมา แล้วโยนทิ้งลูกวิ่งไปเก็บแล้วเล่นต่อไม่มีอาการอะไรเลย หรือแข่งกันปีนไต่กำแพงเพื่อนว่าปัณณ์แพ้ที่โหล่ เพื่อนคนนี้ได้ท่ี1 คนน้ันได้ท่ี2 ได้รางวัล ปัณณ์แพ้ ลูกหน้าเสียบอกเพื่อนว่าขอรางวัลบ้าง แม่ถามว่าเป็นอะไร ก็ไม่ตอบ แต่บางเรื่องโกรธซะสุดๆแต่ไม่บ่อยหรอกค่ะ เช่น จะไปบ้านเพื่อนตอนฝนตกหนัก แม่บอกว่าให้ฝนหยุดก่อน โอ้โห เป็นเรื่อง ก็ใช้วิชาอาจารย์ค่ะคงปฏิสัมพันธ์ไปเรื่อยๆรู้ๆหนูอยากไป อยากไป หนูโกรธแต่รอได้ไหม ร้องเพลงรอไหม กินข้าวก่อนไหม นำ้ตาเปื้อน ล้างหน้าไหม แค่ลูกตอบว่าไม่ๆๆๆ แล้วเมื่อไรฝนจะหยุด พ่อก็บอกฝนหยุดเมื่อไรไปทันที ลูกก็ ให้ไปแค่นี้ไม่ได้หรืองัยเป็นหวัดไม่เห็นเป็นไรเลย จะกางร่มไปมั่ง ร้องนานอยู่ค่ะ หรือเตะฟุตบอลกับเพื่อนเพื่อนผลักล้ม พ่อรีบเข้าไปถามปัณณ์ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ปัณณ์ลุกขึ้นมารีบวิ่งไปผลักกลับ แถมเตะเพื่อน(พี่ป.5)ด้วย พ่อเข้าไปห้ามบอกว่ารู้ว่าเค้าโกรธนะแต่ห้ามทำร้ายกัน แล้วเล่นกันต่อสักพัก ลูกยิงประตูแต่ยิงไม่เข้า ลูกผลักโกลล่้ม(โกลลูกหนู) กลับมาบ้านแม่กับลูกคุยกันค่ะเรื่องทำร้ายกัน ตกลงกันว่าถ้าเกิดเหตุจะมีทำโทษ งดอ่านแฮรี่ พอร์ตเตอร์ 1 วัน ลูกก็บ่นทำไมเพื่อนทำได้ ทำไมเค้าทำไม่ได้แม่กลัว จะเกิดเหตุไม่เล่าเรื่องให้เราฟังหรือปล่าวคะ ควรทำยังงัยดีคะ แต่เรื่องหงุดหงิดแม่นั่นนี่เรื่องสั้นๆไม่ยาวโต้ตอบไปมา 7-8. รอบนี่เกือบทุกวันค่ะ ส่วนมากเรื่องแม่ตื้อ เช่นกินข้าวอีกหน่อยน่านะ อาบน้ำช่วยถูหลังให้เอาไหม น่าขอช่วยหน่อยนะ อีกเรื่องค่ะ บางทีรู้สึกว่าลูกอยู่โหมดบอกปุ๊บ ทำปั๊บอยู่เลยค่ะ หรือเชื่อทันทีที่ใครๆบอกประมาณว่าหลอกง่ายน่ะค่ะทางแก้คือ ทำฐานลูกให้แน่นๆใช่ไหมคะ