เรื่องของภีม

Re: เรื่องของภีม

โพสต์โดย กิ่งแก้ว » ศุกร์ 10 ส.ค. 2012 12:15 pm

ช่วงกระโดดด้วยกัน ก็ดูเหมือนคุณแม่ทำได้ดีขึ้นค่ะ ปล่อยสบายขึ้น แต่ยังรู้สึกได้ถึงความคาดหวังเล็ก ๆ อยู่ ก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หากภาพรวมดีขึ้นเรื่อย ๆ

ส่วน 3 ประโยคสุดท้าย ดูเหมือนกลับมารู้ใจเร็วอีกแล้วล่ะค่ะ

คุณแม่เกร็งหรือกลัว เรื่องแก้ว จากเหตุการณ์วันก่อนหรือเปล่าคะ
กิ่งแก้ว
 
โพสต์: 865
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 07 ต.ค. 2011 6:48 pm

Re: เรื่องของภีม

โพสต์โดย krongkan » ศุกร์ 10 ส.ค. 2012 1:20 pm

ตอนเล่นกระโดดกัน นุ่นลองปล่อยอะไรๆ ออกไปให้หมดสิคะ เล่นแบบนุ่นเองก็เป็นเด็กคนนึงที่อยากกระโดดเล่นกับเด็กอีกคนนึง
พี่ว่าถ้าสนุกจริงๆ และมากพอ พอจะสื่อสารอะไรออกไปเนี่ย ภีมน่าจะตอบรับได้ดีกว่านี้นะคะ ลองดูค่ะ
แล้วตอนหลังเรื่องแก้วน้ำ พี่ว่าน่าจะสะท้อนอารมณ์ตอนที่น้องภีมทำเสียงไม่พอใจ เช่น โอ้ โกรธเหรอ หงุดหงิดเหรอ หรืออารมณ์
อะไรที่นุ่นรู้ว่าภีมกำลังรู้สึกอ่ะค่ะ แล้วรอคอยการตอบสนองของน้องภีมดู ก็อย่าเพิ่งรีบหาทางออกให้เขาค่ะ เลี้ยงๆ อารมณ์ไว้ก่อน
แต่ที่สำคัญตัวนุ่นเองต้องนิ่งและทำงานอารมณ์กับตัวเองด้วยนะคะ
สู้ๆ ค่ะ
krongkan
 
โพสต์: 141
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 17 ต.ค. 2011 8:36 am

Re: เรื่องของภีม

โพสต์โดย NooN » ศุกร์ 10 ส.ค. 2012 5:49 pm

เหมือนเป็นการดีดขั้วไปมาของตัวเอง 
ไม่ผ่อนคลายซะที เพราะใจที่เป็นกังวล และ คิด แล้วก็คิด แล้วก็คิด ว่า "นี่กำลังทำฟลอร์ไทม์อยู่รึเปล่า ทำถูกมั๊ยนะ ลูกได้อะไรบ้างวันนี้ ไอ้ที่หัวเราะเอิ้กๆ อยู่เมื่อกี้ ลูกได้อะไร" 
พอคิดแบบนี้ ไอ้อีกตัวที่อยู่ในหัวก็โผล่มา "ก็คิดมาก กังวลอยู่ได้ เห็นมั๊ยไม่หนุกเลย เลิกคิด เลิกคิด" 

สติที่แท้จริง ไม่เคยอยู่กับตัวได้นานเลย 

หลังจากได้อ่านที่คุณหมอและแม่กุ้งเขียน เรื่องแก้วน้ำ คำตอบที่ผุดขึ้นมาเลยในหัว "สงสัยดีดขั้วอีกแล้ว เมื่อวานยื้อซะร้องเลย" แต่หลังจากนั้นอีกคำตอบก็โผล่มา ดีดขั้วรึเปล่าไม่รู้ แต่แม่หนะ ดีใจ ดีใจตั้งแต่ตอนที่เอาแก้วใส่น้ำมาให้แล้วเค้าผลักออก พอลองอีกที ก็ผลักออกอีก ทั้งๆ ที่ลูกไม่พอใจ แต่แม่หนะยิ้มดีใจไปถึงไหนแล้ว มัวแต่ดีใจที่เค้าแยกแยะได้ ดีใจที่เค้ารู้ว่ามันไม่ใช่ จนลืมที่จะอยู่กับเค้า ไม่นิ่งจริงๆแหละค่ะ

ขอบคุณค่ะ
NooN
 
โพสต์: 14
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 11 ต.ค. 2011 3:12 pm

Re: เรื่องของภีม

โพสต์โดย kroopob » เสาร์ 11 ส.ค. 2012 1:49 pm

ดีใจก็ได้..
เจออะไรที่ชอบที่ถูกใจ เราก็ดีใจเป็นธรรมดา
เห็นลูกมีความสามารถเพิ่มขึ้น เก่งขึ้น แม่ก็ต้องดีใจเป็นธรรมดา

ดีใจได้ครับ !
kroopob
 
โพสต์: 61
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 10 ต.ค. 2011 1:42 pm

Re: เรื่องของภีม

โพสต์โดย NooN » เสาร์ 11 ส.ค. 2012 5:55 pm

ขอบคุณค่ะ ครูพบ อยากกด "like"
NooN
 
โพสต์: 14
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 11 ต.ค. 2011 3:12 pm

Re: เรื่องของภีม

โพสต์โดย NooN » เสาร์ 11 ส.ค. 2012 5:59 pm

เมื่อคืน จะพาภีมเข้านอน แต่ในมือเค้าถือแก้วมาด้วย ในใจก็คิด "เอ้า! ถือของเล่นมาด้วยแบบนี้ จะนอนมั๊ยเนี๊ยะ" (สำหรับภีม แก้วมีความหมายเป็นของเล่น มากกว่าภาชนะใส่น้ำค่ะ) แล้วแม่ก็เริ่มตั้งธง 
- อยากให้ภีมเข้าสู่โหมดการนอนเร็วๆ 
- ต้องเอาแก้วออกจากมือให้ได้ ไม่งั้นไม่นอนแน่ 
- ต้องไม่ให้โมโหด้วย เดี๋ยวไม่นอนอีก ทำงานอารมณ์กันยาวเลย 

แม่ : ภีม เราจะนอนกันแล้ว ไม่เล่นแล้วเน๊อะ แม่ขอแก้วได้มั๊ย 
ภีม : (นอนถือแก้ว นิ่ง) 
แม่ : ภีม แม่ขอแก้วนะ (ค่อยๆเอามือจับแก้ว ดึงนิดหน่อย พอให้เค้ารู้ว่าแม่จับแก้วแล้ว) 
ภีม : (นอนนิ่ง นิ้วจับแก้วแน่นขึ้น) 

แย่แน่! ดึงออกเลยมีหวังโมโห แต่จะพูดขอกันไปแบบนี้ ภีมก็คงไม่ให้ 
แม่ : ภีม แม่ขอแก้วนะ (เพิ่มแรงดึงขึ้นอีกนิด ภีมนอนนิ่ง มือจับแก้วแน่นขึ้นอีกตามแรงดึงของแม่) 
แม่ : ต้องนอนแล้ว จริง จริง ลูก แม่ขอแก้วนะ (มานั่งนึกตอนนี้ น้ำเสียงที่ใช้น่าจะเป็นเสียงที่ไม่รุกเร้า ภีมถึงได้นอนนิ่ง ไม่หงุดหงิด) 
แม่ : ไม่อยากให้หละสิ แต่เราต้องนอนแล้ว แม่ขอแก้วนะ (เพิ่มแรงดึงขึ้นอีก ภีมยังคงนอนนิ่ง มือจับแก้วแน่นขึ้นอีก) 
แม่ : งั้น แม่ต้องแกะนิ้วภีมแล้ว...หนึ่งนิ้ว สองนิ้ว สามนิ้ว สี่นิ้ว ห้านิ้ว อ้าว! เหลือมืออีกข้างนึง แม่แกะต่อนะ น้ิวชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง...เฮ้ย มือข้างนี้มาได้ไง (ภีมเอามือ ข้างขวาที่แม่แกะออกไปแล้ว ค่อยๆ ยื่นมาจับ ตอนที่แม่แกะนิ้วมือข้างซ้ายออกเกือบหมด) 
แม่ : ok งั้นแกะใหม่ก็ได้ เริ่มละน้า นิ้วชี้ นิ้วกลาง 

พอแม่แกะนิ้วเกือบหมด เค้าก็เอามืออีกข้างมาจับ สลับไปแบบนี้หลายรอบ และเร็วขึ้น เร็วขึ้น หน้าภีมจากที่เฉย ๆ ก็เริ่มยิ้ม และเห็นรอยยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ด้วย สงสัยภีมจะคิดในใจว่า "ยังไงก็เอาแก้วไปจากภีมไม่ได้" เล่นกันไปพักใหญ่จากที่ตั้งใจว่าจะให้ลูกเข้าสู่โหมดการนอนให้เร็วที่สุด กลายเป็นมาชวนลูกเล่นซะเอง 

มานั่งทบทวนตอนนี้ นี้ใช่มั๊ย ที่เรียกว่า เล่นให้เหมาะกับตัว " I " ของลูกเคยแย่งของไปจากมือเค้าเลย ก็สมควรที่เค้าจะโกรธมาก โกรธชนิดลงไปดิ้นกับพื้น เพราะไม่รู้จะไปตามเอาคืนมาได้ยังไง เพราะของมันหายไปจากเค้าเลย 

มาตามแย่งของจากเรา ก็ยากสำหรับเค้าถ้ามันไม่มีเสียง 

แต่ครั้งนี้ "แก้ว" อยู่ในมือเค้า มันยังอยู่ และเค้าปกป้องได้ 
NooN
 
โพสต์: 14
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 11 ต.ค. 2011 3:12 pm

Re: เรื่องของภีม

โพสต์โดย kroopob » เสาร์ 11 ส.ค. 2012 9:51 pm

กด like ให้การเอะใจ
กด like ให้ใจสงบ
กด like ให้การตามน้ำ
ชอบนะ
kroopob
 
โพสต์: 61
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 10 ต.ค. 2011 1:42 pm

Re: เรื่องของภีม

โพสต์โดย NooN » เสาร์ 11 ส.ค. 2012 11:56 pm

ดีใจจังค่ะ หน้าบานไปแป๊บนึง
แล้วก็นึกถึงสิ่งที่ตัวเองเขียนไว้ หลังจากค่ายอยู่กับลูกให้สนุก(ต่อยอด) และหลังจากที่ครูพบไปอบรมที่เชียงใหม่ เมื่อเดือน กรกฏา ที่ผ่านมา เขียนไว้ว่า

"จากค่ายที่กรุงเทพ สิ่งที่ได้กับตัวเองคือ เราต้องละเอียดและปราณีต ในการสังเกต สีหน้า ท่าทาง น้ำเสียง เพื่อที่จะเข้าใจและเข้าถึง อารมณ์ความรู้สึกและความต้องการของทั้งตัวเองและคนอื่น และที่สำคัญที่สุดก็คือลูก

แต่ปรากฎว่า ไอ้ที่นึกว่าตกผลึกแล้ว รู้แล้ว เข้าใจแล้ว เพราะในค่ายเราได้ฝึกแสดงอารมณ์ต่าง ๆ เป็นทั้งคนแสดงอารมณ์ คนที่เลียนแบบ และต้องทายในสิ่งที่คนอื่นแสดง พอกลับมาเชียงใหม่ ในการอบรมมีน้องๆ มาเล่น หลายเคสมาก ผลที่ได้จากการมีส่วนร่วมในการเล่นนิ๊ดนึงกับนั่งดูซะส่วนใหญ่ ปรากฎว่า "สอบตก" อ่านความรู้สึกผิดมั่ง ถูกมั่ง เหมาเอาเองว่าเค้ารู้สึกแบบนี้ หรือบางทีไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เกิดความรู้สึกเหล่านั้นขึ้นมาแล้ว จนมีคนเข้าไปทำงานอารมณ์ ถึงเพิ่งรู้ตัว 

มันก็กลับมาที่คำเดิมที่ครูเคยพูด "คนเรามักมองหาท่าทางสัญลักษณ์เดิมๆ ที่ตัวเองคุ้นชิน ว่าถ้าตกใจ ต้องแสดงท่าแบบนี้ กลัวแบบนี้ โดยไม่ได้มองเข้าไปที่ความรู้สึกที่แท้จริง" แน่นอนกับคนที่เราไม่คุ้นเคย ก็มีความเป็นไปได้สูงที่เราจะอ่านผิด แต่กับลูกเราเอง เราก็อ่านผิด เพราะฉะนั้นคงต้องมีสติที่แท้จริงอยู่กับตัว ช้าพอ และปราณีตมากพอ ที่จะเห็นลูกจริงๆ

ที่สำคัญอย่าไปคิดแค่ว่าจำนวนน้อยครั้งที่ทำได้ จะสามารถใช้คำว่า"ทำได้"ตลอดไป เพราะคำว่า "ทำได้แล้ว" กับ "ทำได้ดีจนชำนาญ" มันต่างกัน 

ข้อดีของการดูเคสร่วมกัน ทำให้ได้เห็นตัวอย่าง ที่หลากหลาย ยิ่งพอมาเห็นคนที่เค้าเล่นสนุก แบบสนุกจริง จริง ในสายตาเรา หรือเห็นการทำงานอารมณ์ที่ใจถึงใจ แล้วหันกลับมามองตัวเอง เลยรู้สึกว่าตัวเองเหมือน "สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ" จะเอาดีทางสนุก ก็ไม่สนุกจริง จะเด่นทางทำงานอารมณ์ ก็ไม่ถึงใจ กว่าจะวิวัฒนาการเป็น "สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม" คงต้องกลับไปลงมือทำ และทำ และทำ และทำ อีกเยอะมาก เพราะสิ่งที่เค้าเหล่านั้นทำออกมาได้ มันเกิดจาก การเข้าใจในหลักการ มีเทคนิคที่เพียงพอ แต่สิ่งที่คัญที่สุด คือ ทำจนคุ้นเคยและเกิดความชำนาญ"

พยายามต่อไปค่ะ และคงจะทำจนคุ้นเคยและเกิดความชำนาญเข้าซักวัน อย่างมีสติ
NooN
 
โพสต์: 14
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 11 ต.ค. 2011 3:12 pm

Re: เรื่องของภีม

โพสต์โดย NooN » อาทิตย์ 12 ส.ค. 2012 12:00 am

ดีใจจังค่ะ หน้าบานไปแป๊บนึง
แล้วก็นึกถึงสิ่งที่ตัวเองเขียนไว้ หลังจากค่ายอยู่กับลูกให้สนุก(ต่อยอด) และหลังจากที่ครูพบไปอบรมที่เชียงใหม่ เมื่อเดือน กรกฏา ที่ผ่านมา เขียนไว้ว่า

"จากค่ายที่กรุงเทพ สิ่งที่ได้กับตัวเองคือ เราต้องละเอียดและปราณีต ในการสังเกต สีหน้า ท่าทาง น้ำเสียง เพื่อที่จะเข้าใจและเข้าถึง อารมณ์ความรู้สึกและความต้องการของทั้งตัวเองและคนอื่น และที่สำคัญที่สุดก็คือลูก

แต่ปรากฎว่า ไอ้ที่นึกว่าตกผลึกแล้ว รู้แล้ว เข้าใจแล้ว เพราะในค่ายเราได้ฝึกแสดงอารมณ์ต่าง ๆ เป็นทั้งคนแสดงอารมณ์ คนที่เลียนแบบ และต้องทายในสิ่งที่คนอื่นแสดง พอกลับมาเชียงใหม่ ในการอบรมมีน้องๆ มาเล่น หลายเคสมาก ผลที่ได้จากการมีส่วนร่วมในการเล่นนิ๊ดนึงกับนั่งดูซะส่วนใหญ่ ปรากฎว่า "สอบตก" อ่านความรู้สึกผิดมั่ง ถูกมั่ง เหมาเอาเองว่าเค้ารู้สึกแบบนี้ หรือบางทีไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เกิดความรู้สึกเหล่านั้นขึ้นมาแล้ว จนมีคนเข้าไปทำงานอารมณ์ ถึงเพิ่งรู้ตัว 

มันก็กลับมาที่คำเดิมที่ครูเคยพูด "คนเรามักมองหาท่าทางสัญลักษณ์เดิมๆ ที่ตัวเองคุ้นชิน ว่าถ้าตกใจ ต้องแสดงท่าแบบนี้ กลัวแบบนี้ โดยไม่ได้มองเข้าไปที่ความรู้สึกที่แท้จริง" แน่นอนกับคนที่เราไม่คุ้นเคย ก็มีความเป็นไปได้สูงที่เราจะอ่านผิด แต่กับลูกเราเอง เราก็อ่านผิด เพราะฉะนั้นคงต้องมีสติที่แท้จริงอยู่กับตัว ช้าพอ และปราณีตมากพอ ที่จะเห็นลูกจริงๆ

ที่สำคัญอย่าไปคิดแค่ว่าจำนวนน้อยครั้งที่ทำได้ จะสามารถใช้คำว่า"ทำได้"ตลอดไป เพราะคำว่า "ทำได้แล้ว" กับ "ทำได้ดีจนชำนาญ" มันต่างกัน 

ข้อดีของการดูเคสร่วมกัน ทำให้ได้เห็นตัวอย่าง ที่หลากหลาย ยิ่งพอมาเห็นคนที่เค้าเล่นสนุก แบบสนุกจริง จริง ในสายตาเรา หรือเห็นการทำงานอารมณ์ที่ใจถึงใจ แล้วหันกลับมามองตัวเอง เลยรู้สึกว่าตัวเองเหมือน "สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ" จะเอาดีทางสนุก ก็ไม่สนุกจริง จะเด่นทางทำงานอารมณ์ ก็ไม่ถึงใจ กว่าจะวิวัฒนาการเป็น "สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม" คงต้องกลับไปลงมือทำ และทำ และทำ และทำ อีกเยอะมาก เพราะสิ่งที่เค้าเหล่านั้นทำออกมาได้ มันเกิดจาก การเข้าใจในหลักการ มีเทคนิคที่เพียงพอ แต่สิ่งที่คัญที่สุด คือ ทำจนคุ้นเคยและเกิดความชำนาญ"

พยายามต่อไปค่ะ และคงจะทำจนคุ้นเคยและเกิดความชำนาญเข้าซักวัน อย่างมีสติ
NooN
 
โพสต์: 14
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 11 ต.ค. 2011 3:12 pm

Re: เรื่องของภีม

โพสต์โดย patcha » อาทิตย์ 12 ส.ค. 2012 7:27 am

ยกนิ้วให้ "เก่ง" จริงๆ รุ่น1เก่งทุกคน(ยกเว้นพี่)

นุ่นเป็น"แม่"ที่สุดยอดที่พี่เห็นความพยายามและความตั้งใจสูงมาก

เวลาที่เริ่มขี้เกียจเหนื่อยล้า มักจะคิดถึงนุ่นว่า เขาทำมากกว่าเราเยอะ

น้องภีมจะเก่งขึ้นเรื่อยๆ และจะมีอะไรให้เราได้ปลื้มเล็กๆในใจ

ใครไม่รู้ไม่เข้าใจ แต่แม่อย่างเราๆเข้าใจกันได้ดีเลยแหละ

สู้ สู้ๆๆ
patcha
 
โพสต์: 13
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 21 พ.ค. 2012 10:24 am

ย้อนกลับต่อไป

ย้อนกลับไปยัง ถาม-ตอบ



cron