โดย NooN » อาทิตย์ 12 ส.ค. 2012 12:00 am
ดีใจจังค่ะ หน้าบานไปแป๊บนึง
แล้วก็นึกถึงสิ่งที่ตัวเองเขียนไว้ หลังจากค่ายอยู่กับลูกให้สนุก(ต่อยอด) และหลังจากที่ครูพบไปอบรมที่เชียงใหม่ เมื่อเดือน กรกฏา ที่ผ่านมา เขียนไว้ว่า
"จากค่ายที่กรุงเทพ สิ่งที่ได้กับตัวเองคือ เราต้องละเอียดและปราณีต ในการสังเกต สีหน้า ท่าทาง น้ำเสียง เพื่อที่จะเข้าใจและเข้าถึง อารมณ์ความรู้สึกและความต้องการของทั้งตัวเองและคนอื่น และที่สำคัญที่สุดก็คือลูก
แต่ปรากฎว่า ไอ้ที่นึกว่าตกผลึกแล้ว รู้แล้ว เข้าใจแล้ว เพราะในค่ายเราได้ฝึกแสดงอารมณ์ต่าง ๆ เป็นทั้งคนแสดงอารมณ์ คนที่เลียนแบบ และต้องทายในสิ่งที่คนอื่นแสดง พอกลับมาเชียงใหม่ ในการอบรมมีน้องๆ มาเล่น หลายเคสมาก ผลที่ได้จากการมีส่วนร่วมในการเล่นนิ๊ดนึงกับนั่งดูซะส่วนใหญ่ ปรากฎว่า "สอบตก" อ่านความรู้สึกผิดมั่ง ถูกมั่ง เหมาเอาเองว่าเค้ารู้สึกแบบนี้ หรือบางทีไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เกิดความรู้สึกเหล่านั้นขึ้นมาแล้ว จนมีคนเข้าไปทำงานอารมณ์ ถึงเพิ่งรู้ตัว
มันก็กลับมาที่คำเดิมที่ครูเคยพูด "คนเรามักมองหาท่าทางสัญลักษณ์เดิมๆ ที่ตัวเองคุ้นชิน ว่าถ้าตกใจ ต้องแสดงท่าแบบนี้ กลัวแบบนี้ โดยไม่ได้มองเข้าไปที่ความรู้สึกที่แท้จริง" แน่นอนกับคนที่เราไม่คุ้นเคย ก็มีความเป็นไปได้สูงที่เราจะอ่านผิด แต่กับลูกเราเอง เราก็อ่านผิด เพราะฉะนั้นคงต้องมีสติที่แท้จริงอยู่กับตัว ช้าพอ และปราณีตมากพอ ที่จะเห็นลูกจริงๆ
ที่สำคัญอย่าไปคิดแค่ว่าจำนวนน้อยครั้งที่ทำได้ จะสามารถใช้คำว่า"ทำได้"ตลอดไป เพราะคำว่า "ทำได้แล้ว" กับ "ทำได้ดีจนชำนาญ" มันต่างกัน
ข้อดีของการดูเคสร่วมกัน ทำให้ได้เห็นตัวอย่าง ที่หลากหลาย ยิ่งพอมาเห็นคนที่เค้าเล่นสนุก แบบสนุกจริง จริง ในสายตาเรา หรือเห็นการทำงานอารมณ์ที่ใจถึงใจ แล้วหันกลับมามองตัวเอง เลยรู้สึกว่าตัวเองเหมือน "สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ" จะเอาดีทางสนุก ก็ไม่สนุกจริง จะเด่นทางทำงานอารมณ์ ก็ไม่ถึงใจ กว่าจะวิวัฒนาการเป็น "สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม" คงต้องกลับไปลงมือทำ และทำ และทำ และทำ อีกเยอะมาก เพราะสิ่งที่เค้าเหล่านั้นทำออกมาได้ มันเกิดจาก การเข้าใจในหลักการ มีเทคนิคที่เพียงพอ แต่สิ่งที่คัญที่สุด คือ ทำจนคุ้นเคยและเกิดความชำนาญ"
พยายามต่อไปค่ะ และคงจะทำจนคุ้นเคยและเกิดความชำนาญเข้าซักวัน อย่างมีสติ