สวัสดีค่ะ คุณหมอ คุณครู
วันนี้มีเรื่องดีใจคับอก มาบอกกล่าวค่ะ
วันนี้น้องแจ๊คมีนัดทำฟัน เป็นครั้งที่สามที่ รพ แห่งหนึ่ง ถ้านับเรื่องทำฟัน เป็น รพ ที่สองในการทำฟันของแจ๊ค
จริงๆที่ รพ นี้ ต้องเรียกว่าเปนการขูดหินปูนครั้งที่สองถึงจะถูกเพราะครั้งแรก แค่มาเจอหมอ และทำความคุ้นเคยนิดหน่อย
ครั้งแรกก็มีความรู้สึกที่ดีที่ลูกไม่ต้องถูกพันธนาการเหมือนที่เก่า ที่ใช้บริการมาเกือบสิบปี แต่ลูกก็มีความไม่นิ่งบ้าง หมอต้องหลอกล่อด้วยการนับบ้าง
เช่น หมอจะทำถึงสิบแล้วพอนะ หมอก็นับไป แจ๊คช่วยนับ พอสิบ หมอก็เบรคจริงๆ หมอก็รีบทำ และ หมอใจเย็น น้ำเสียงดี
วันนี้เกิดอะไรขึ้นแม่ถึงดีใจคับอก ก็คือ วันนี้ แจ๊คเข้าไป และนั่งที่เก้าอี้ทำฟันโดยไม่อิดออด นอนอ้าปาก ให้หมอทำ โดยหมอไม่ต้องนับเลข หรือพูดหว่านล้อมเลย
ในช่วงแรก หมอทำครึ่งของด้านล่าง แจ๊คใช้นิ้วมาอุดหูข้างนึง หมอยังทำไม่เสร็จ แจ๊คก็เอานิ้วออกเอง แม่ยืนอยู่ข้างเก้าอี้ทำฟัน พออีกครึ่งของด้านล่างหมอให้บ้วนน้ำก่อน
แจ๊คก็ปฎิบัตรตามแล้วนอนลงทำต่อ โดยไม่อุดหูอีกเลย นอนมือวางข้างลำตัว ขาสองข้างผ่อนคลาย จนเป็นครึ่งบนรึเปล่าไม่รู้ที่ผู้ช่วยพูดกับแจ๊คว่า
แจ๊คให้คุณแม่ไปนั่งนะ เดี๋ยวคุณแม่เมื่อย แม่ก็เลยเดินมานั่งเก้าอี้ปลายเท้าแจ๊ค โดยส่งเสียงชมลูกเป็นระยะเหมือนตอนที่ยืน แต่ห่างขึ้น
ด้วยตัวตน ก็ เอ๊ะ ผู้ช่วยเค้าเห็นเรายืนแบบไม่จำเป็นรึเปล่านะ หรือเค้ากลัวเราจะเมื่อย แต่คิดไปคิดมา ลูกก็เหมือนกับไม่ได้ต้องการให้เรายืนตรงนั้นนี่นา
เป็นเราเองแหละ ที่ยืน ด้วยความรอบคอบเกินไป (จริงๆกังวลเล็กๆ ว่าลูกจะยุกยิก หรือต้องการกำลังใจ 555)
และก็คิดว่ายืนแค่นี้ไม่เป็นไรเลย ตลอดเวลาที่ทำที่เดิม นอกจากยืน แม่ยังต้องช่วยกดเข่าลูกที่จะดิ้น คอยช่วยหมอบอก อ้าปากนะลูก เดี๋ยวจะเสร็จแล้ว
คอยบีบมือ บีบขาลูกเป็นจังหวะ ที่คิดว่าลูกจะได้รู้ว่าแม่อยู่ด้วย และลูกจะผ่อนคลายขึ้น
นั่งดูไปก็ปลื้มใจ ที่ลูกมีวันนี้ื วันที่ลูกนอนทำฟันได้เหมือนคนอื่นๆ ผ่อนคลาย ไม่ต้องต่อสู้ เพราะแม่ก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย คิดว่ามันจะดีกว่าการที่ลูกจะต้องปวดฟัน
ถูกวางยา หรือต้องถอนฟัน ก็นั่งคิดไป ว่าระยะเวลาที่ลูกไม่เจอหมอมา 6-7 เดือน และเป็นการเจอแค่สองสามครั้ง ในรอบกว่าครึ่งปี อะไรทำให้ลูกมีวันนี้
การที่หมอมีท่าทีที่ดี คงมีส่วนที่เค้าสัมผัสได้จากรอยยิ้มและการทักทาย แต่แม่ว่าส่วนใหญ่ คงมาจากสัมพันธภาพเรื่องความไว้ใจ ในตัวแม่ ทำให้เค้าสามารถไว้ใจคนอื่นได้
จากการรีจิสเตอร์เสียงที่คุณหมอแนะนำให้ทำ วันนี้เค้ามั่นใจมากขึ้นเพราะเมื่อหมอเปลี่ยนเครื่องมือ หมอจะมาทำที่เล็บเค้าก่อนให้เค้ารู้จัก เค้าก็ ครับครับ
นั่งดูด้วยความชื่นชมลูกบอกลูกว่า แจ๊คเก่ง แจ๊คเยี่ยมมากเลย อยากเอากล้องมาถ่าย อยากแชร์รูป อยากเก็บไว้ดู แต่เกรงใจคุณหมอ และกลัวการลุกออกมาเอาจะไปทำเสียเรื่อง เสียสมาธิ เสียความมั่นใจของลูกว่าแม่ไปไหน...เลยยุติความคิดของตัวเอง 555
ก่อนหน้าทำฟันสามสี่วัน แจ๊คมีปัญหาเล็บขบค่ะ ที่นิ้งโป้งเท้าซ้าย ข้างจมูกเล็บมีหนองสีเหลืองเห็นได้ชัด แม่ละกลุ้ม พี่ชายเค้าเคยหาหมอ และต้องถอดเล็บไปหนึ่งในสี่
พี่เค้าเจ็บปวดมากอยู่สองสามวัน ไม่อยากจะคิดเลย ถ้าเป็นแจ๊ค. แม่เลยไปแคะๆดูปรากฏว่าหนองไหล แม่นึกว่าจะจบแบบคราวก่อนที่แจ๊คเคยเป็น แต่คราวนั้นบวมนิดเดียว แม่เปิดกูเกิ้ลค่ะ หาเรื่องเล็บขบ มีคนโพสท์ไว้หลายอย่าง แม่เลือกวิธีเอาเล็บแม่งัดเล็บข้างๆที่มันกดเนื้อขึ้นมา แล้วใช้กรรไกรตัเล็บตัดค่ะ งัดอยู่หลายรอบกว่าจะตัดได้ เพราะพอปล่อยมือ มันก็มุบลงไปเหมือนเดิม ลูกก็ให้ความร่วมมือดีมาก นอนนิ่ง ด้วยความไว้ใจ เพราะแม่บอก แม่รู้ว่าแจ๊คเจ็บนะ แม่จะช่วย
แม่ถามพี่ชายแจ๊คว่าตอนเป็นมันเจ็บมั้ยเค้าบอกเจ็บ ปวด แม่ก็รู้ว่าตอนแม่พยามจะตัดแจ๊คคงเจ็บมากอยู่ งัดไปมาเลือดก็ออก แต่ไม่มาก จนตัดได้สำเร็จ แม่ก็เสี่ยงเอา
อย่างมากก็ไปถอดเล็บแบบพี่ ไม่รู้ว่าแม่ทำได้ไงเหมือนกัน พอทำเสร็จแจ๊คร้องไห้ และมีอารมณ์ขึ้นสลับกันไป อารมณ์ขึ้นก็มีท่าประจำของเค้าค่ะ อยากเอาคางมากดแม่ คราวนี้แม่กอดเค้าไว้ รับรู้อารมณ์ มันเจ็บ แม่เห็นใจนะ อารมณ์ไม่ขึ้นก็ ครับๆ อารมณ์ขึ้นก็ลุกขึ้นจะเอาคางกดแม่ แม่ก็มองตาบอกไม่ทำแม่ ทำวินัยได้ไม่ค่อยดีอะค่ะ ตอนนั้น เพราะเห็นใจเค้าคงเจ็บมากอยู่ ก็ขึ้นๆลงๆ ไปน่าจะไม่เกิน 15 นาทีอะค่ะ ก็สงบลง ร้องไห้เบาๆ แม่ก็ปลอบ รับรู้ความเจ็บ เห็นใจกันไป แบบที่เห็นครูพบช่วยคราวก่อน
โชคดีค่ะ ขายุบไม่บวมแดง ไม่มีหนองแล้ว วันนี้ขอให้คุณหมอฟันช่วยดู หมอบอกหายแล้ว เนื้อด้านๆแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าตรงส่วนโคนๆเล็บจะขบอีกรึเปล่า แค่นี้ก็ดีแล้วที่เหลือถ้าเป็นอีกค่อยว่ากัน แม่คิด
อาทิตย์ที่แล้ว พี่ๆหาหมอฟัน แจ๊คพบหมอหู คือนานๆให้หมอดูซะที เพราะเคยมีปัญหาหูชั้นกลางอักเสบ เมื่อสองปีก่อนต้องเจาะใส่ท่อเพื่อระบายน้ำ
พอหาก็ได้ผล มีน้ำคั่งในแก้วหูด้านขวา ด้านที่ดี ด้านซ้ายก็แก้วหูแฟบเหมือนเคย หมอบอกว่าน่าจะเกิดจากหวัดหมอขอส่องหูด้วยเครื่องมือที่มีกำลังขยายมาก ต้องนอนให้ส่อง แจ๊คจะไม่ค่อยยอมเพราะเคยถูกดูดสิ่งแปลกปลอมออกจากหู มันเป็นคล้ายๆเครื่องดูดฝุ่น เสียงดัง
แม่เลยใช้เทคนิคหลอกนิดๆ ว่าแม่จะช่วยหมอใช้ไฟฉายส่องนะ ปรากฏว่ามีเศษผมอยู่ใกล้แก้วหูคุณหมอบอกทำให้คัน หมอจะคีบออก แม่ก็บอกแม่จะชวยกะหมอคีบนะ แม่ก็ต้องยืนข้างๆหมอ ที่ใช้เทคนิคนี้เพราะแม่คิดว่า ตอนอยู่บ้านเค้านอนนิ่งให้แม่ส่องไฟฉายและแคะหูให้ได้ คือถ้าเค้าคันหรือเจ็บเค้าจะมาบอกแม่ค่ะ ว่าไฟฉายๆ
แม่ก็จะถามว่า เอามาทำอะไรเหรอ เค้าจะบอก ส่องหู แม่ก็จะถามเค้าว่าเป็นไร เจ็บ หรือคัน สองคำนี้ก็เป็นการบ้านที่จะต้องให้เค้าใช้ถูกมากขึ้นค่ะ
แล้วเค้าก็จะยอมให้ส่อง บางครั้งจะบอกว่าเกาให้หน่อย แม่ก็จะเอาคัตตั้นบัดมาหมุนตรงตื้นๆให้ค่ะ พอเป็นพิธี แล้วบอกว่าแจ๊คคัน มันคัน
นี่อาทิตย์หน้าต้องไปติดตามผลเรื่องหูอีกค่ะ
การกินอาหาร ดีขึ้นมากกก อย่างไม่น่าเชื่อ ตอนนี้ ต้มจืดเต้าหู้ ใส่หมูสับ ทานได้ มีผักชีต้นหอมปนๆไก้นิดหน่อย
ข้าวต้มกุ้งเมื่อเช้า ปกติ ข้าวกะกุ้ง วันนี้แม่ก็ตักติด ขึ้นไช่ ผักชีต้นหอม ไปบ้างสามสี่ชิ้นก็ไม่คายอะค่ะ ก่อนทาน ก็ได้ดม เป็นการฝึกรับกลิ่นที่หลากหลายไปด้วยค่ะ
วันนี้ยาวเลย สมกับที่หายไปหลายเดือน ขอบคุณค่ะ