ขออนุญาตแชร์มั่งค่ะ ดิฉันพาลูกพบคุณหมอแก้วตาครั้งแรกเมื่อ เดือนกันยายน 2554 ตอนนั้นก่อนพบคุณหมอตัวเองมั่นใจมากๆ ว่า
ลูกโอเค พูดจาสื่อสารรู้เรื่องแน่นอน แต่กาลกลับไม่เป็นเช่นนั้นค่ะ ลูกกังวลจนไม่สามารถแม้แต่จะมีขั้น 1 ได้เลย จนเมื่อได้ออกมา
นอกห้องอยู่กับพ่อและพี่น้องเค้าจึงสามารถสื่อสารได้ในระดับ 3-4
ความรู้สึกของดิฉันตอนนั้นเหมือนฟ้าถล่มอีกครั้งค่ะ ยังไม่สามารถคิดได้เหมือนคุณพ่อว่าเรายังทำงานน้อยเกินไป แต่ดิฉันคิดถอย
ไกลไปอีกว่า ตัวเองนั้นช่างโง่เง่า ช่างอีกสารพัดจะช่าง ที่คิดว่าลูกนั้นโอเค แต่จริงๆ ไม่โอเค และไม่สามารถหลุดออกจากความคิด
นั้นได้เลยเป็นเวลานานมาก ดิฉันเฝ้าพร่ำโทษตัวเองอยู่ตลอดเวลา สังเกตได้ง่ายๆ คือการไม่มั่นใจที่จะแชร์ประสบการณ์ การไม่มั่นใจ
ที่จะช่วยตอบคำถามหรือปัญหาของผู้ปกครองท่านอื่น ซึ่งจริงๆ ดิฉันอยากช่วยแบ่งเบาภาระให้คุณหมอบ้างแม้สักเล็กน้อยก็ยังดี
และที่แย่กว่านั้น คือดิฉันไม่สามารถบอกเล่าความรู้สึกออกมาเหมือนคุณพ่อ จึงไม่มีใครช่วยดิฉันได้ เป็นปีนะคะกว่าจะมาถึงวันนี้
กว่าจะรู้ว่าที่ผ่านมาไม่ใช่เราไม่ได้ทำอะไร ไม่ใช่ว่าเราทำผิด เพียงแต่เรายังทำไม่สมดุลย์ เรามองไม่ออกว่าจริงๆ แล้วลูกเป็นอย่างนั้น
เพราะพร่องในระบบไหน เค้าต้องการอะไร
เมื่อมาพบคุณหมอกิ่งแก้วครั้งแรกเมื่อ เดือนกันยายน 2555 ครบ 1 ปีพอดีหลังจากพบคุณหมอแก้วตา 555 การช่วยมองภาพรวม
ของคุณหมอทำให้ทิศทางของบ้านเราชัดขึ้นค่ะ แล้วยิ่งมาได้ดีวีดีการประสานเสริมกิจกรรม และการอบรมต่างๆ ยิ่งช่วยให้เราเกา
ถูกจุดมากขึ้น ณ ตอนนี้ดิฉันบอกได้เลยค่ะว่าบ้านเรามุ่งหน้าพุ่งทิศขึ้นอย่างโจนทะยานเลยค่ะ เอาใจช่วยคุณพ่อนะคะ