สวัสดีคะ
ดิฉันเป็น ผปค. ของ เด็กชายอายุ 4.5 ขวบ ชื่อ "พอ" เป็นเด็กพัฒนาการช้ารอบด้าน (global delay) เอะใจตอนอายุ 6 เดือน เพิ่งคว่ำ ชอบเอามือประสานกันตรงหน้าอก จึงเริ่มเข้าสู่กระบวนการตรวจ เช็ค หาสาเหตุ และกระตุ้นพัฒนาการเรื่อยมาค่ะ แรกๆ ก็เน้นฝึกบวกกับหาสาเหตุแบบเป็นบ้าเป็นหลัง แต่หลังๆ มา ก็ช่างเถอะ หาบ้างไม่หาบ้าง เน้นฝึกกระตุ้น ดีกว่า .. หลังจากฝึกโน่นนี่ น้องก็ดีขึ้นอย่างช้าๆ เป็นลำดับ ก็เอาหล่ะ เขาพัฒนาการช้านี่นะ เขาก็ทำได้แต่ช้าหน่อย ก็ฝึกไป อดทนรอเท่านั้น
กลางวันมีคุณตา คุณยายเลี้ยงหลัง พ่อแม่ก็ต่อช่วงเย็น และ ส. –อา เต็มๆ ยามอยู่กับตา ยาย ก็ไม่ค่อยปล่อยให้ทำอะไรเอง ยังใส่แพมเพิสอยู่ แม่คนเดียวที่พยายามจะฝึกให้เลิก แต่ก็ต้องพยายามประนีประนอม ณ จุดนี้ เพราะเขาก็อุตส่าห์ช่วยเลี้ยง ไปงัดข้อ เดี๋ยวน้อยใจจะแย่
ที่บ้านไม่มีเด็กวัยเดียวกัน ไม่ให้ดูทีวี อะไรที่พอชอบแล้วกระตุ้นให้หลุดในโลกคนเดียว เราพยายามเลี่ยงและดึงกลับ เช่น ชอบมองเหม่อ ชอบของเล่นที่มีไฟ แวบๆ
พอเล่นของเล่นไม่ค่อยเป็น เล่นกับคนอื่นไม่เป็นแต่สนใจเด็กอื่น เวลาอยากไปหาเขาจะดุ่ยๆ เข้าไป จับแขน จับหน้าตาเลย เด็กอื่นตกใจ เลยหนีไปหมด
พอชอบเล่นของเล่นที่เป็นของจริงๆ เช่น พัดลม ทีวี ชอบเคาะให้เกิดเสียง แต่จะเคาะเหมือนสื่อสาร ชอบรถของจริงๆ มาก ชอบเล่นรถตา ไปห้างหรือลานจอดรถ แวะดูและเคาะทุกสองคันเลยทีเดียว
กล้ามเนื้อ
พอคลานได้ตอน เกือบขวบ .. เดินได้เกือบสองขวบ ตอนนี้เดินได้แต่ท่ายังไม่สวย
สื่อสาร
ตอนนี้สี่ขวบยังพูดไม่ได้ดี แต่พูดเป็นคำๆ ได้ แต่ไม่ชัดนัก คำที่สื่อสารได้ตรง เช่น หม่ำ พ่อ แม่ ตา ไป เป็นต้น และฟังคำสั่งได้ เช่น ไปอาบน้ำ ถอดเสื้อ เอาอันนี้ไปใส่ตระกร้า เอาอันนี้ไปทิ้งขยะ หยิบไม้กวาด เปิด ปิดน้ำ เป็นต้น แต่ทว่า.. รูปปากก็ยังไม่เป๊ะ (แต่ก็พอใจในระดับหนึ่ง) อาศัยเอาความหมายเอา ที่ว่ารูปปากไม่สวยนัก ก็เช่น อยากกินอะไร เขาจะบอกว่า หม่ำๆ แต่แทนที่จะใช้ริมฝีปากประกบกัน เขาใช้ฟันบนประกบกับริมฝีปากล่าง คำว่าแม่ ก็ทำรูปปากคล้ายกัน
เวลาจะบอกว่าชอบหรือไม่ชอบอะไรใช้การสื่อสารด้วยการร้อง แต่ร้อง อื้ดๆ ไม่ร้องแงๆ เหมือนจะบอกว่าไม่เอานะ ไม่ชอบ กำลังโมโหนะ ซึ่งตอนนั้น เราก็ไม่รู้จะแก้สถานการณ์อย่างไร ได้แต่หยิบยื่นสิ่งที่เขาต้องการให้เพียงเพื่อให้หยุดร้อง
พอไม่กรีดร้อง ไม่ทำร้ายตัวเองและคนอื่น
ช่วยเหลือตัวเอง
เรื่องกิน .. พอเป็นเด็กกินเก่ง กินทุกอย่าง ผัก ผักที่ว่าขมอย่างมะระ พอไม่ยั้น ผลไม้ ข้าว ขนม นม ทานได้ ชนิดที่แม่สงสัยว่าพอมีปุ่มรับรสที่ลิ้นไหม แต่เคยลองบีบมะนาวสดๆ แตะที่ลิ้น ก็ทำหน้าหยี นี่นา
พอตักข้าวทานเองได้ด้วยมือขวา แต่ไม่จับซ้อม กินน้ำจากหลอด ยกแก้ดื่มได้ บางทีลองให้กระดกกินจากขวด ก็กินได้ไม่หก แต่ระวังเรื่องน้ำเทเข้าจมูก ..
จวบจนเมื่อ ธ.ค. 56 เราเข้าสู่ฟลอร์ไทม์แบบจริงจัง หลังจากหาอ่าน หาดูตามเน็ต
เราได้พบคุณครู คุณครูน่ารัก ครูคุยไป ประเมินไป เล่นไป นี่เป็นครั้งแรกที่พอเข้าฝึกแล้วไม่มีอาการร้อง ครูจีบพอได้ไม่ยาก พอมีหายใจแรง ใจเต้น คงกลัวครู แต่หน้าก็เฉยๆ พ่อเขาจับเสียงหายใจได้ และพอจะนัวเนียอยู่กับพ่อตลอด ครูค่อยๆ เข้า แต่ก็ยังไกลอยู่มาก แต่ 1 ชม. ที่อยู่ก็อยู่ได้นาน จนเกือบๆ ท้าย ชม. ที่เริ่มมีอาการงุ๊งงิ๊ง ร้องอื๊ดๆ และพยายามเปิดประตู จะกลับ
โดยสรุปวันแรก .. ครูสอนเทคนิควิธีการเล่นกับลูก แล้วเรากลับเอาไปใช้ที่บ้าน
-พอเล่นของเล่น แม่ก็ค่อยทำเสียงนำ ติ๊ดๆๆ แล้วเอื้อมมือไปจับของเล่น พอก็แย่งแบบเบาๆ ของเล่นก็ยังไม่หลุดจากมือแม่ ครั้งที่สอง แม่จึงยอมปล่อย
-พอเล่นเครื่องบินที่มีไฟ แม่เอาผ้าไปคลุม .. พอรีบหยิบผ้าออกทันที เล่นแบบนี้ 2-3 ครั้ง
-พอเล่นเครื่องบินที่มีไฟ แม่เรียกพอดูแล้วบอกว่า “แม่เอาใส่ไว้ในนี้นะ (ถุงแพมเพิสใหญ่ๆ )” แล้ววางไว้ แม่รอดูว่าพอจะทำอย่างไร พอพยายามจะเอาออกจากถุง แต่ก็งกเงิ่นเต็มที เห็นเขาพยายามพักหนึ่ง จึงบอกว่า “มาๆ แม่ช่วยนะ” แล้ว ก็ช่วยเขาคลายปากถุง แล้วให้เขาพยายามหยิบออกเอง ซึ่งใช้เวลาประมาณ ครึ่งถึง 1 นาที จึงหยิบออกมาสำเร็จ
เรากลับไปพบครูอีกครั้ง พอเดินเข้าหน้าประตูคลินิกกระตุ้นแบบไม่ร้อง แต่พอเห็นประตูห้องครู มีเสียง อี๊ๆ เหมือนบอกว่า ไม่เข้า .. แต่ตอนนั้น ไม่รู้ว่าจะบอกเขายังไง
วันนี้ครูสอนเรื่องการบอกอารมณ์ลูกให้ลูกรับรู้ เวลาเขาร้องบอก เช่น อี๊ๆ ก็บอกอารมณ์เขา และสิ่งที่เขาต้องการ และเริ่ม ยื้อ แล้วเรากลับเอาไปใช้ที่บ้าน
-เรื่องอี๊ๆ แล้วบอกอารมณ์เขานี้ เราเห็นผลกับเรื่องการกิน เช่น ถึงเวลากินข้าวเย็น เขาปรี่ไปที่เก้าอี้กินข้าวประจำตำแหน่ง ร้องอี๊ๆ แม่บอกว่า “อ๋อ พอจะนั่ง พอจะกินข้าว” หรือมีขนม เขาเดินมา ส่งสายตา เราก็จะบอกว่า "อ๋อ อยากได้ ๆ "
-หรือเวลาที่ต้องเข้าไปฝึกที่ไหนสักแห่ง แล้วเขาจำได้ เขาจะร้อง เราก็จะบอกว่า “อ๋อ พอไม่อยากเรียนเนอะ” “เอออๆ .. ไม่อยากเรียน” “ พอไม่อยากเรียน เรียนแป๊บนึงนะ เดี๋ยวกลับบ้านกัน” พูดแบบนี้ซ้ำๆ เขาก็ยังร้องอยู่ แต่รู้สึกว่าเขาเบาลง
-ของเล่นอะไรที่เขาชอบ เช่นเล่นขับรถตา แล้วเขาเล่นคนเดียว ครูก็ให้เราแทรกตัวเข้าไป โดยแม่ก็เริ่มด้วย พอชอบปีนรถตาไปขับรถ แม่ก็ยืนบังอยู่ตรงประตู ไม่ให้เขาขึ้น แถมทำหน้าตาเย้ยหยัน ปนขำๆ ปากแบะ เขาก็ไม่โกรธ ก็อยากเล่นเต็มที่ ดูซิ่ว่าจะทำอย่างไร ผลคือเขาก็ค่อยๆ แซกซึม ไม่จู่โจม ด้วยการป้วนเปี้ยนๆ ก่อน เดินไปๆ มา แล้วค่อยๆ เบียดแม่ จนปีนขึ้นรถตาได้ เขาดีใจ
-เสต็ปของเขาเวลาขึ้นไปได้ ต่อมาเขาจะเปิดเพลงในรถเสียงดัง แม่ก็หรี่ แล้วบอกว่า “เบาๆ ” เขาก็เอื้อมมือไปเร่งเสี่ยง แม่ก็หรี่อีก ทำซ้ำสามรอบ เขาแก้ปัญหาแบบเดิมสามรอบ
-เขาเล่นเกียร์ แม่ก็เอามือบังเกียร์ เขาแกะมือออก จะเล่นอีก ก็เอามือบังอีก แต่ทีนี้ แม่ตั้งใจว่าจะไม่ยอมเอามือออก ตั้งใจว่าจะให้แงะทีละนิ้ว ทำเสียงกันไปแกล้งกันไปเขาก็แงะทีละนิ้ว จนครบ ถึงได้เอามือออก
-พอเขาจะลงจากรถ เขาพยายามเปิดประตู แต่แม่ก็นั่งบังตรงประตู ทำให้เขาเปิดประตูไม่ได้ หลายรอบเขาก็ยังเปิดไม่ได้ แม่จึงค่อยๆ ยอม (ยอมบ้าง)
ที่บ้านมีห้องว่าอยู่ห้องหนึ่ง ในนั้นมีเครื่องเสียงที่พอชอบให้พ่อเปิดเพลง และมีม้ายางไว้ขี่ ดึ๋งๆ เราพบว่า พอจะสนุกและอารมณ์ดีเมื่อเล่นแบบมีเสียง พอต้องสนุกแบบมันส์หยด มีซาวด์ เราก็เล่นแบบสนุก ร้องเพลง เฮๆๆ เขาก็เล่นได้นานขึ้น ในห้องนี้ ที่แต่ก่อนเข้ามาก็เล่นแบบแกร็นๆ
มีอยู่วันหนึ่ง พ่อของพอเล่าให้ฟังว่า พ่อเขากลับมาบ้าน ทักทายฟัดหอมกันสักพัก ก็พากันไปเล่นที่ห้องข้างบนนั้น ส่วนอีกวัน หลังจากทักทาย พอดึงมือพ่อ ให้พาไปยังห้องที่เขาต้องการ พ่อเขาดีใจเชียวคะ
-เข้าไปในห้อง เขาบอกว่า “เปิดๆ” (ให้เปิดเครื่องเสียง เปิดเพลง) พ่อก็ถามซ้ำสองรอบ จึงเปิดให้
-ช่วงรอเครื่องวอร์ม ค่อนข้างนาน เขาจะมีอารมณ์แบบว่า รอนานแล้ว เปิดเสียที เราก็บอกอารมณ์เขาว่า “อืม เปิดแล้ว รอแป๊บนึง” แต่ก็ยังบ่นด้วยสีหน้า (หันมามอง) และเสียงอี๊ดๆ (ทำไมนาน เสียงไม่มาเสียที)
-พอเปิดได้เขาดีใจ แล้วพยายามให้เขาหันมาสนใจขี่ม้ายางดึ๋ง พอขี่ได้ ประกอบกับมีเพลงที่ชอบ ขี่ได้นานเชียว พอเบื่อมาก็เดินมาที่วอลลุ่ม มะเร่งเสียง พอมาเร่งอยู่หลายรอบ แม่เลยแกล้งหรี่เสียง แล้วแม่เอาตัวบังปุ่มวอลลุ่มไว้ พอก็เบียดมือมา เอื้อมมือมาเปิดเสียงให้ดังขึ้น ทำซ้ำ สองถึงสามรอบ
แล้วงานก็เข้า
-พ่อเขากลับมาบ้านเร็วก็พาฝึก จัดหนักจนลืมเล่นสนุก ทีนี้ พอรู้แกว ไม่สนุกเสียแล้ว เลยไม่ฝึก เรามารู้ทีหลังว่า “พ่อหายไป” และต้องกู้กลับมา
-แม่เป็นคนคิดเยอะ สนุกได้ไม่นาน
-ตอนนี้คิดว่าจะต้องเริ่มจด บันทึก ประเมิน บ้างกันลืม กันสับสน ค่ะ
รบกวน อ. ชี้แนะ หรือทุกท่าน ร่วมแชร์ด้วย ค่ะ
และมาถึงตอนนี้ ก.พ. 57 ส่งฝึก SI และ มี.ค. 57 ฝึกพูดต่อค่ะ
ขอบคุณค่ะ