www.floortimethailand.com

กิจกรรมปลายเดือน ตค. นี้ เป็นเรื่องการแก้ไขปัญหาพฤติกรรมตามแนวทาง DIR/ฟลอร์ไทม์

ประกอบด้วย 2 ส่วนใหญ่ ๆ

ส่วนแรก เป็น การขยายความพฤติกรรมที่คนทั่วไปเรียกว่าอาการ ซึ่งจะเน้นทำความเข้าใจโดยละเอียดถึงสิ่งที่เรียกว่า การกระตุ้นตัวเอง โลกส่วนตัว และการกระทำซ้าซาก

ส่วนที่สอง คือ การแก้ปัญหาพฤติกรรมอันเนื่องมาจากความโกรธ และการหลบเลี่ยงเมื่อเผชิญสิ่งยากในชีวิต

เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่พอจะเล่น 1-2 ได้ (และเริ่ม 3-4) และเด็กเริ่มแสดงอารมณ์แล้วนะคะ

เนื่องจากมีผปค.สนใจคลิบการพัฒนาเด็กระดับ 6-7-8 ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคลิบที่ค่อนข้างยาว (กว่าจะคลี่คลายความคับข้องใจแต่ละเรื่อง)

จึงขอนัดหมายให้ผู้สนใจมาถึงก่อนเวลา โดยดิฉันจะเปิดคลิบดังกล่าวตอน 8.30 น.

ส่วนกิจกรรมตามหัวข้อจะเริ่ม 9 โมงตรงนะคะ

ถึงแม้ว่าดิฉันอยากเริ่มกิจกรรมเร็วกว่านี้ เพื่อไม่ให้เลิกเย็นจนเกินไป ก็ทำไม่ได้ เพราะผู้ครองที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดจะมาไปทันค่ะ

แต่ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ต่างจังหวัดไปถึงก่อนในกรุงเทพนะคะ 555

ต่างจังหวัดไกล ๆ มาถึงก่อน

ต่างจังหวัดใกล้ ๆ มาไม่ทัน

รับ feedback มาจากวงใน (และจากตัวเอง) ว่า คลิบเมื่อวันเสาร์ ทั้งเยอะ ทั้งแรง ...ทำเอาหลายคนอึ้งและมึน

ก็น้อมรับการ feedback นะคะ ตอนทึ่เตรียม ก็สะสมมาเรื่อย ๆ ไม่รู้สึกว่าเยอะ ว่าแรง แต่พอปล่อยของพร้อมกันทีเดียว กลายเป็น "จัดเกิน"

รอบนี้ ของปีหน้า จะลดลงสัก 30 % น่าจะกำลังดีค่ะ

สำหรับตัวเองไม่คิดว่าเยอะเกินนะคะ กลับรู้สึกว่าได้รับความรู้ความเข้าใจเพิ่มมากขึ้น และเหมือนยังอยากได้อีก

โดยคลิปจากต่างประเทศของผู้ที่ไม่ได้เข้าวงการเป็นเหมือนการปูพื้นเรื่องมาว่าเกิดอะไรขึ้น และคลิปต่างๆ ที่

คุณหมอแสดงเองก็เป็นเหมือนคำตอบว่าต้องทำอย่างไรถึงจะสามารถพัฒนาลูกให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นได้ ซึ่งสำหรับ

ดิฉัน ดิฉันคิดว่าตอบโจทย์ตัวเองเต็มๆ ได้เห็นวิธีการทำงานที่ถูกต้อง ชัดเจน สามารถนำไปเชื่อมโยงกับเหตุการณ์

จริงที่เกิดขึ้นของเราได้ ซึ่งการไปพบคุณหมอ 1 ชม. ไม่สามารถทำให้เห็นตัวอย่างการทำงานทั้งหมดในทุกอารมณ์

ได้ แถมการที่ได้ไปอบรมคนเดียว ก็ยังประโยชน์ขึ้นอีก เมื่อต้องมาถ่ายทอดให้ "เพื่อนคู่คิด" เห็นภาพ เข้าใจ เพราะ

ก็เป็นการทำให้ตัวเองได้ทบทวนเนื้อหา ข้อความ ถ้อยคำ ต่างๆ ที่พบที่เห็นที่เจอมาในวันนั้น ก็ได้เรียบเรียงอีกครั้ง

ให้ภาพในหัวชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งอาจไม่ครอบคลุมทั้งหมด แต่ก็โอเค พอใจ และเราก็ลงมือปฏิบัติจริงทันที เพื่อฝึกฝน

ตัวเองให้สามารถ "พริ้ว" ได้เหมือนอย่างที่คุณหมอแสดงให้ดูในคลิปค่ะ เพราะการพูดคุยบางอย่างบางครั้งบางครา

ของเราเองที่ถูกกำหนดปิดตายด้วยใจที่ไม่เปิดกว้างเป็นตัวปิดกั้นความพริ้วของตัวเองค่ะ และก็ปิดกั้นลูกไปด้วยในตัว

แหะ แหะ แหะ

เมื่อได้ลิ้มลองความรู้สึกที่ปล่อยวางมากขึ้น ได้เรียนรู้เทคนิคการนำพาขึ้นขั้นพัฒนาการ

ก็ดูเหมือนว่าหนทางการสื่อสารพูดคุยก็เปิดกว้างมากขึ้น เพียงแต่อาจต้องปรับต้องแก้กันเพื่อคงสมดุลย์ระหว่างแม่ลูกไว้

อีกนิดหน่อย ก็ได้เห็นค่ะว่าตัวเองก็ได้ปลดล็อคอาการยึดติดของตัวเองขึ้นอีกนิด เพื่อให้ลูกได้ปลดล็อคตัวเค้าเองขึ้นอีกนิด

เหมือนกัน ชีวิตดูมีความสุขขึ้นค่ะ หนทางข้างหน้าเลยดูช่างสดใสจังค่ะ สรุปว่าเอื้อประโยชน์สำหรับตัวเองมากๆ เลยค่ะ

ขอบคุณค่ะ

การมี "นักเรียน" หลายระดับในห้องเรียนเดียวกัน นับเป็นโจทย์ยากของการจัดกิจกรรม

ก็ได้แต่หวังว่าแต่ละคนคงจะได้ประโยชน์ไปบ้าง ไม่มากก็น้อยค่ะ

ช่วงแรกๆที่ได้ดูคลิปก็ทำให้เข้าใจวิธีการมากขึ้น ถึงแม้ว่ามีหลายคลิปที่เคยดูมาแล้ว และบางคลิปก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย ก็ได้เชื่อมโยงความรู้กับวิธีการ ช่วยให้เราเห็นวิธีการที่ชัดขึ้น

ช่วงหลังๆ ตอนแรกก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกันว่า ทำไมถึงมีคลิปค่อนข้างแรงเยอะขึ้นและนานด้วย และบางคลิปก็อดคิดไม่ได้ว่ามันมีแบบนี้ด้วยเหรอ แต่หลังๆเริ่มรู้สึกว่าอาจารย์คงต้องการสื่อให้เรามองเห็นเหมือนเป็นกระจกส่องถึงหน้าตาและอารมณ์ของผู้เป็นแม่ซึ่งเป็นสิ่งที่ปิดซ่อนหรือเฉไฉไม่ได้ (ไม่เหมือนคำพูด)

ตอนแรกถ้าอินกับเหตุการณ์นั้นมันก็ดูจะเครียด แต่ถ้ามองถึงสิ่งที่จะได้จากคลิปหลังจากดูและตั้งสติได้ ก็จะรู้ว่ามันมีประโยชน์มากมาย และจะเข้าใจว่าทำไมเราถึงต้องทำแบบนั้น แบบนี้

และที่สำคัญทำให้เราระลึกอยู่เสมอว่า เราเป็นแม่ผู้ที่ต้องมีทั้งความรัก ความเข้าใจ ในตัวลูกอย่างถ่องแท้ มีความอดทน เพื่อที่จะได้นำพาลูกพ้นไปให้ได้

ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงดูไปด้วยร้องไห้ไปด้วย แต่ด้วยสติที่มากขึ้นและประสพการณ์ที่ผ่านมา และความเชื่อมั่นในแนวทางนี้ก็ทำให้ตัวเองสามารถรับสถานะการณ์เหล่านี้ได้มากขึ้น

ดูเพื่อกลับมาพิจารณาตัวเอง มองอย่างมีสติและอยู่กับปัจจุบันกับลูก ดิฉันก็กลับมาถ่ายทอดคนใกล้ตัวเฉพาะบางเรื่องที่ต้องทำเร่งด่วนขณะนี้ ไม่ได้เล่าทั้งหมด (เพราะคนมิติสัมพันธ์ดีคงทนฟังไม่ได้ 555) ก็ถือว่าคุ้มค่านะคะ

ได้มากได้น้อยก็คงแล้วแต่จริตของแต่ละคนค่ะ (ยืมคำคุณหมอมาพูด)

ขอบคุณค่ะ

อีกนิดค่ะ อยากรู้หัวข้อกิจกรรมปีหน้าไวไวจังเลยค่ะ

โดยปกติ การเตรียมคลิบของดิฉัน เตรียมเพื่อใช้งานจริง คือมีปัญหานี้จริง คือพบผู้ที่ทำงานอารมณ์โดยใช้คำพูดที่ไม่สอดคล้องกับภาษากาย.... ที่นำมาฉาย ดิฉันอยากให้เข้าใจเรื่องภาษากายที่มาจากใจน่ะค่ะ โดยอยากให้เป็นกระจกอย่างที่ว่า เพียงแต่กระจกมันชัดเกินจริงไปหน่อย จึงทำให้บางท่านอึดอัด โดยเฉพาะท่านที่ไวความรู้สึกค่ะ

เรื่องโปรแกรม วางแผนเสร็จแล้ว กำลังรอทีมศาลายาทำประกาศค่ะ