ส่งการบ้านค่ะ

ส่งการบ้านค่ะ

โพสต์โดย krongkan » ศุกร์ 22 มี.ค. 2013 11:38 am

ขอส่งการบ้านสักหน่อยนะคะคุณหมอ
หลังจากที่ดูดีวีดีประสานกิจกรรมของคุณหมอแล้วก็ทำให้เห็นภาพชัดขึ้นค่ะว่า กิจกรรมทั้งหลายที่เคยได้อ่านได้เห็นหรือแม้แต่
ในหนังสือคู่มือที่ทำตามกันมาเป็นเวลานานนั้น แต่ละกิจกรรมทำไปเพื่ออะไร ทำให้การทำกิจกรรมสำหรับครอบครัวมีเป้าหมาย
ชัดเจนไม่สะเปะสะปะค่ะ ได้ประโยชน์และชอบมากจริงๆ รวมทั้งจากการที่คุณหมออธิบายในดีวีดีนั้นก็ช่วยให้มีความเข้าใจ
ในหลายๆ เรื่องชัดเจนขึ้น ทราบว่าสิ่งใดควรเน้น สิ่งใดควรทำก่อน และจะทำสิ่งใดไปเพื่ออะไร ขอบคุณมากๆ ค่ะ
หลังจากที่ดูแล้วก็นึกร้อนวิชา ลองนั่งประเมินด้วยตัวเอง ก็พบดังนี้ (ไม่แน่ใจนะคะว่าถูกหมดหรือเปล่า)
ขั้นพัฒนาการลูกอยู่ระดับ 5-6 เวลาอยู่ด้วยกันมักจะพูดคุยกันที่ระดับ 6 เป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อโกรธ กลัว จะลงมาอยู่ที่
ขั้น 5 พูดจาสมมติจะทำร้ายด้วยความโกรธ แต่ก็ดึงขึ้นระดับ 6 ได้ไม่ยาก และยังทำงานรับมือกับความคับข้องใจตามที่
คุณหมอแนะนำมาอยู่ค่ะ พบว่าก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ
การเล่มสมมติเล่นเป็นเรื่องราวได้ สะเปะสะปะน้อยลงหลังจากที่ได้เห็นตัวอย่างที่คุณหมอพูดคุยกับเขาแล้วมาทำตาม ก็ตบเป็น
ก้อนๆ สรุปๆ ได้ชัดเจนมากขึ้น เรื่องราวการเล่นจึงเข้ารูปเข้าร่างมากขึ้น ลักษณะการเล่นขณะนี้เป็นการเล่นแบบมีการกำหนด
ตัวละคร จะทำอะไร และดำเนินเรื่องราวอยู่ในธีมได้พอใช้ สามารถแตกเรื่องราวออกไปได้ทั้งอารมณ์บวกและอารมณ์ลบ เช่น
เล่นเป็นคนขับรถไฟ ขับชนตัวละครอีกตัวแล้วพาไป รพ หาหมอรักษา ขณะเดียวกันก็แตกเรื่องราวว่ามีรถเสียจะเอารถไปซ่อม
ที่อู่ด้วยในคราวเดียวกัน คือพาไปให้เต็มโบกี้ มักชอบเล่นสมมติต่อสู้ จัดการกับปีศาจ ตั้งป้อมจัดฐานเอง เมื่อใส่อุปสรรคก็
สามารถคิดหาวิธีจัดการให้จนได้
ภาษากายชัดขึ้นมาก เวลาแสดงท่าทางโกรธหรือไม่พอใจแสดงออกได้อย่างสวยงาม หน้าตา ท่าทาง ฮึดฮัด กำมือกำหมัด
กระทืบเท้า โกรธมากๆ น้ำตาปริ่มไหล หน้าตาได้อารมณ์มากค่ะ
ลักษณะการเล่นกับพี่น้อง ขณะนี้เล่นตัวติดกันกับน้องอายุ 5 ขวบได้ทั้งวัน จากที่เมื่อก่อนน้องมักจะปฏิเสธที่จะเล่นกับพี่
ปัจจุบันเป็นคู่ซี้ทะเลาะกันได้เถียงกันได้ ฟ้องกันได้ น้องมีงอนแต่เจ้าตัวยังไม่เคยงอนให้เห็น มีแต่จะเฉยๆ โกรธๆ บอก
ไม่เล่นด้วยแล้ว และเดินหนีไป ง้อเป็น รู้จักหาพวก เช่นเมื่อน้องล้อหรือแซวแล้วตัวเองไม่ชอบก็จะเบี่ยงเบนน้องด้วยการชวน
น้องคุยเรื่องที่น้องชอบ แต่การสื่อสารยังไม่คล่องแคล่วเท่าน้อง แต่ร่างกายแข็งแรงนำน้องไปเยอะเหมือนกันค่ะ
การเล่นกับพี่ มักชอบเล่นเตะบอลด้วยกัน แต่จะจบลงด้วยความหงุดหงิดของเจ้าตัว บ่นว่าพี่ชายว่าเล่นแรง เตะอัด เค้ารับไม่ได้
โกรธ เลิกเล่น แต่หากพ่อเข้าร่วมเล่นด้วยจะเล่นได้นาน เพราะพ่อมีอารมณ์ขัน ชวนกันทำท่าสนุกๆ ตลกๆ และให้พี่กับน้องอยู่
ฝั่งเดียวกัน รุมเตะเข้าประตูพ่อ ก็จะเล่นได้นานมาก(เพิ่งได้รู้จากดีวีดีค่ะว่ายากเป็นลำดับท้ายๆ)
ลักษณะการเล่นกับเพื่อน เล่นรวมกลุ่มได้เกือบตลอดเวลา ถ้าการเล่นนั้นไม่ยากเกินไป มีตอบโต้เพื่อนที่คุ้นเคยด้วยภาษากาย
แต่เพื่อนที่ดูแรงๆ ยังดูเกรงๆ อยู่ ต้องมีแม่อยู่ประสานจึงจะเล่นด้วย และยังเล่นอยู่ได้ไม่นาน
ส่วนเรื่องการประเมิน 7 ระบบ พบว่า (ไม่แน่ใจนะคะว่าถูกหรือผิด)
1. เรื่องเสียง ไม่ค่อยมีปัญหากับเสียงความถี่ต่ำ ตัดผมด้วยบัตตาเลี่ยนได้ แต่เสียงแหลมสูงยังมีอยู่ เช่นถ้านั่งทานข้าวอยู่
แล้วมีเสียงเด็กร้องไห้จ้า จะหยุดฟังและถามถึงว่าใครร้อง ร้องทำไม เป็นอะไร ครั้งหน้าถ้าจะพาไปทานร้านเดิมก็บอกว่าจะไม่
ไปแล้วเพราะไม่ชอบเสียงเด็กร้องไห้ หนวกหู กลัว แต่เมื่อพูดคุยกันไปเรื่อยๆ ก็ยอมเข้าไป ถ้าน้ำเสียงพ่อหรือแม่ดุแม้เพียงนิด
ก็จะออกอาการโกรธทันที มากน้อยแล้วแต่ความแรงของน้ำเสียงและท่าทีพ่อและแม่ แต่พูดคุยกันได้แม้ในอารมณ์โกรธจัด
เคยไม่ยอมไปเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ รร ที่มีคนมาเต้นแอโรบิก รำพัดจีนเสียงดังพรึ่บพรั่บ ปัจจุบันอยู่ได้ เล่นกับกลุ่มเพื่อนได้
อย่างสบายๆ
ยังคงกลัวเสียงตุ๊กแกมากอยู่ แต่บอกได้ว่ากลัว ได้ยินเร็วกว่าทุกคน กลัวไม่กล้าไปในห้องคนเดียว กลัวเจอตุ๊กแต
บอกได้สื่อสารได้
กลัวเสียงดังที่กระทันหัน โป้งป้าง จะตกใจง่าย แต่สื่อสารได้
ก็เคยลองให้เล่นดอกไม้ไฟที่มีทั้งเสียง แสง ความเร็ว กลิ่น ก็เล่นได้ไม่กลัว กลัวพลุน้อยลง แต่ต้องอยู่ในระยะที่ไม่ใกล้มากนัก
เสียงประทัดก็กลัว ต้องออกไปไกลๆ หรือช่วยอุดหู เดี๋ยวคงได้ดูกันอีกทีค่ะ เพราะจะเริ่มเทศกาลเชงเม้งกันแล้ว
แต่ไม่พบการพยายามแสวงหาโอกาสเพื่อฟังเสียงต่างๆ ค่ะ
2. เรื่องภาพ ไม่แน่ใจว่าภาพที่คุณหมอหมายถึงนี่คือภาพนิ่งหรือเปล่าคะ หรือรวมภาพทุกอย่าง เพราะถ้าเป็นภาพนิ่งไม่พบ
ปัญหาค่ะ แต่ถ้าเป็นภาพเคลื่อนไหว เช่น น้ำที่ไหลจากสระใหญ่มาสระเล็ก หรือควันจากหม้อสุกี้ หรือภาพที่มีลักษณะไหลๆ พบ
ว่ามีการจ้องมองและกระตุ้นตัวเองบ้างค่ะ แต่ไม่ทุกครั้งเสมอไป และพบว่าการกระตุ้นนั้นน้อยลงเรื่อยๆ แต่ยังมีอยู่ ชอบมองหา
สะพานข้ามน้ำ ร่องน้ำ เวลาเดินทางไปในที่ต่างๆ
3. เรื่องสัมผัส ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาเพราะชอบให้กอด ชอบให้หอม ได้ทั้งเบาๆ และแรงๆ ไม่มีปัญหากับเรื่องเสื้อผ้า
แต่ถ้าเจ็บปวดหรือบาดเจ็บจะกังวลบ้าง บางเวลา จะพูดถึง ชี้ให้ดู ถามถึงการบาดเจ็บที่เหมือนกันของคนอื่นอยู่บ่อยครั้ง
4. เรื่องกลิ่น พบว่าช่วงที่ผ่านมาดมมือตัวเองบ่อย เวลากินอะไรเมื่อส่งเข้าปากแล้วก็จะดมนิ้วตัวเอง มือโดนอะไรก็ดม ดมบ่อย
แต่พบว่าเริ่มลดลงบ้างแล้ว เวลาจะทานอะไรจึงมักให้เขาดมก่อน ว่านี่ กลิ่นเป็นแบบนี้นะ ก็ดมได้ไม่มีปัญหา
5. การเคลื่อนที่ พบว่าสามารถเดิน วิ่ง ได้เป็นอย่างดี วิ่งเร็วที่สุดในบ้าน ขี่จักรยานคล่องแคล่วเกินหน้าพี่และน้อง แต่เรื่องเต้น
ยังคงไม่ลื่นไหลมากนัก
6. เมื่อให้เล่นเกมส์หรือกีฬาใหม่ๆ พบว่าเกมส์นั้นเรียนรู้ได้ หากได้รับคำแนะนำเพิ่มเติม แต่กีฬานั้น ยังทำได้แต่ขั้นตอนง่ายๆ
7. กล้ามเนื้อมัดเล็ก พบว่าทำได้บางเวลา เขียนหนังสือตัวยังใหญ่และหวัด หากเขียนนานจะยิ่งเละ แต่ถ้าเขียนไม่นาน เขียน
เรื่องที่ชอบจะเขียนได้ดี วาดรูปตามแบบ ยังทำได้ไม่ดีนัก ขาดสัดส่วนและรายละเอียดที่ดี วาดรูปตามที่ชอบจะวาดได้ลื่นไหล
วาดเป็นนักรบต่อสู้ สายน้ำ สะพาน บ้านเรือน ลักษณะภาพมักมีการเคลื่อนไหวอยู่ในที เช่นวาดภาพต่อสู้ก็จะมีตัวเอก มีตัวศัตรู
และมีการต่อสู้แบบปล่อยพลังและศัตรูตาย เหมือนภาพสโลโมชั่น การจับช้อนยังไม่ทะมัดทะแมง
8. คำศัพท์ใหม่ๆ พบว่าชอบเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ ยิ่งถ้าทำให้สนุกจะชอบมาก
9. เรื่องหาของ มีความพยายามหา แต่หาเรื่อยเปื่อย
10.การทำตามคำสั่งหลายขั้นตอน พบว่าทำได้บางเวลา
11.ความสามารถในการสร้าง ประกอบ ประดิษฐ์ พบว่ามีความพยายามที่จะทำ แต่ยังทำได้ไม่ดีนัก
สรุปแล้ว โดยรวมคิดว่างานที่ต้องเน้นคงเป็นเรื่องภาพและเสียงที่มีความแรง เร็ว ดัง การเคลื่อนไหว ที่ยังต้องเก็บเรื่อง ทิศทาง
มุม ความเร็ว กีฬา มิติสัมพันธ์ ที่ต้องทำให้ขึ้นมาอยู่ในระดับที่ดีกว่านี้ ส่วนเรื่องอื่นก็เสริมเติมไปตามเรื่อยๆ เช่นกันค่ะ มีงานต้อง
ทำอีกมากเลยทีเดียว
ทั้งนี้ก็พยายามไล่ตามเก็บกิจกรรมทั้งหมดที่คุณหมอให้มาค่ะ ซึ่งจริงๆ ก็ต้องบอกว่าทะยอยทำมาอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่มีจุดหมาย
แต่ตอนนี้ชัดเจน เห็นทาง แน่วแน่และมั่นใจขึ้นมากเลยค่ะ
ส่วนงานบ้านนั้น ที่บ้านแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบค่ะ เด็กๆ ทุกคนมีหน้าที่เก็บผ้า พับผ้า ล้างจาน เตรียมเสื้อผ้าที่จะใส่ไป รร หรือ
ไปธุระเอง อาบน้ำ เช็ดตัว แต่งตัวกันเอง เก็บที่นอนตัวเอง ถูสบู่เสื้อนักเรียนและถุงเท้าของตัวเอง ช่วยขยี้น้ำ ถูบ้าน เอาขยะไปทิ้ง
เช็ดโต๊ะ เวลาจะไปเที่ยวก็จะเก็บเสื้อผ้ากันเองโดยมีแม่ช่วย หิ้วเป้ของตัวเองเดินทาง ซื้อของตามห้างมีหน้าที่หาของ เข็นรถ
หิ้วของมาที่รถ พ่อแม่เดินตัวปลิว 555 สั่งอาหารที่อยากทานเอง ต้องการอะไรให้ขอจากพนักงานในร้านเอง เรียกเก็บเงินเอง
เดินทางท่องเที่ยวกันค่อนข้างบ่อย พบว่าโดยสารด้วยเครื่องบินได้ง่ายขึ้น จากที่ครั้งแรกจะร้องปวดหูตลอด ครั้งที่ผ่านมาผ่านไปได้
เป็นอย่างดี
ลักษณะความกังวล ตอนนี้กลัวไม่อยากนอนฝัน เพราะฝันร้ายกลัวว่าจะเป็นจริง แม่ก็ช่วยด้วยการพูดคุย และสอนให้สวดมนต์ นั่งสมาธิ
ทำสมาธิเพื่อให้จิตใจผ่อนคลาย ได้ผลค่ะ ไม่ใช่ได้ผลเรื่องฝันนะคะ แต่ชอบนั่งสมาธิ นิ่งได้ประมาณหนึ่ง แต่ยังมียุกยิกๆ อยู่บ้าง
ก็ขำๆ ดีค่ะ เวลาเค้านั่งพยายามหลับตานิ่งๆ แต่ตากลิ้งไปกลิ้งมา เกร็งเปลือกตา ตลกดี
เขียนซะยาวเลยค่ะ การบ้านส่งคุณหมอ
ขอบคุณค่ะ
krongkan
 
โพสต์: 141
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 17 ต.ค. 2011 8:36 am

Re: ส่งการบ้านค่ะ

โพสต์โดย กิ่งแก้ว » ศุกร์ 22 มี.ค. 2013 5:22 pm

ดีใจค่ะ...ที่หลายครอบครัวมีทิศทางในการพัฒนาลูกมากขึ้น

การเก็บรายละเอียดของความหลากหลายเป็นเรื่องที่ค่อย ๆ ทำไปค่ะ เมื่อมีทิศทางชัดเจน และมีความพยายาม งานข้างหน้าก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้ว จริงมั้ยคะ

ที่เขียนมาแล้วคิดว่าอาจจะเพิ่มความเข้มข้นอีกนิด น่าจะเป็นการหาของ และงานที่จะพัฒนามิติสัมพันธ์ เช่น การหา การต่อ การซ่อม

ส่วนการเล่นสมมุติ ตอนนี้ความรู้สึกของเค้าจะยังคงจริงจัง แต่เมื่อเล่นไปนาน ๆ เส้นแบ่งของการเล่นสมมุติในอารมณ์แรง ๆ พวกนี้ จะชัดขึ้น ๆ เหมือนปิดเปิดสวิทซ์ จะเล่น-จะเลิกเล่น จะง่ายกว่านี้ และจะ "ไม่อิน" เท่านี้

หลังการเล่น อาจจะลองพูดคุยกันเรื่องอารมณ์เมื่อกี้นี้ด้วยก็ดีค่ะ

เช่น เมื่อกี้ตอนแสดงเป็น...แม่เห็นลูกตาแดง ๆ รู้สึกยังไงเหรอ แล้วถ้า.....แล้วท่า....จะยังไง

ที่เรียกว่าการหาพวก ไม่เชิงเป็นการรู้จักง้อคนนะคะ เป็นลักษณะของการอ้อนพี่ ไปรุมน้อง หรือทำท่าซี้กับคนหนึ่ง เย้ยคนอีกคนหนึ่งที่เขากำลังเคืองน่ะค่ะ เป็นลักษณะของ 2 รุม 1 ซึ่งจะเท่ากับพัฒนาการขั้น 7

ส่วนการเล่นที่ว่ายากคือเล่นในทีมของเด็กระดับเดียวกัน (ในตัวอย่างเด็กชื่อแบรนดอนเล่นบาสกับเพื่อน)

หมายเหตุ: ดิฉันชอบดูเวลาเค้าตื่นเต้น เค้าตลกดีค่ะ
กิ่งแก้ว
 
โพสต์: 865
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 07 ต.ค. 2011 6:48 pm

Re: ส่งการบ้านค่ะ

โพสต์โดย krongkan » ศุกร์ 22 มี.ค. 2013 9:46 pm

ขอบคุณคุณหมอมากๆ ค่ะ กำลังใจมาเต็มเปี่ยมเลยค่ะ สู้เต็มที่
krongkan
 
โพสต์: 141
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 17 ต.ค. 2011 8:36 am

Re: ส่งการบ้านค่ะ

โพสต์โดย krongkan » อังคาร 09 เม.ย. 2013 1:24 pm

หลังจากอบรมกลับมาเมื่อปลายเดือนที่แล้ว บ้านเราก็จัดเต็มกันเลยค่ะ ขอสรุปส่งการบ้านสักเล็กน้อยให้คุณหมอช่วยดูด้วยนะคะ
วันนั้นได้ไอเดียดีๆ จากคุณพ่อต้นแบบเยอะมากก็เลยได้นำมาประยุกต์ใช้กันเลยค่ะ เริ่มจาก
1. ช่วยกันก่อเตาถ่านทำกับข้าว ทอดไก่ที่เด็กๆ ชอบกิน ได้ยกเตาถ่าน ขยำกระดาษยัดใส่เตาเป็นเชื้อเพลิง ตักถ่านใส่เตา
พัดไฟให้ถ่านติด ตั้งกระทะ เทน้ำมัน ใส่ไก่ลงทอด กินเสร็จแล้วก็ช่วยกันล้าง แบบสนุกมั่ง แบบเบื่อๆ มั่งคละเคล้ากันไป
อ้อ มีต้องไปเดินตลาดซื้อไก่ที่ตัวเองอยากกินแบบไม่ชอบเลย มันนาน มันเหนื่อย มันเบื่อ เดินไปบ่นไปตลอดทาง โดยมี
แม่กับพี่ทำเป็นหูทวนลม
2. อาบน้ำจากที่ใช้ฝักบัว ก็เปลี่ยนเป็นรองน้ำใส่กระป๋อง ใช้ขันตักอาบโดยมีวัสดุขัดตัวที่แม่เลือกซื้อมา ทั้ง บวบ ฟองน้ำ
และใยผ้านุ่มๆ ก็ทำให้เด็กๆ สนุกสนานกัน มีการแบ่งกันใช้มั่ง แย่งกันมั่ง ต่อรองกันมั่ง เพราะ บวบ และฟองน้ำแข็งเกิน
มีแต่ใยผ้าเท่านั้นที่นุ่มถูกใจ
3. ช่วยกันทำขนมพายบลูเบอร์รี่ ทำง่าย เด็กๆ ช่วยกันทุบขนมปังกรอบให้ละเอียด ตีครีมชีส ใส่โยเกิร์ต ราดบลูเบอร์รี่
สนุกดีค่ะ
4. เริ่มเรียนศิลปะ ซึ่ง รร ที่เรียน เป็น รร ที่สอนดนตรีด้วย ที่ รร เปิดวีดีโอ คอนเสริต์แนวเพลงแจ๊ส เพลงบลู ตลอดเวลา แถมขาย
อาหารด้วย กลิ่นตลบอบอวล เสียงปั่นน้ำมีอยู่เกือบตลอดเวลา และเป็น รร ที่ตั้งอยู่ริมถนนห้องหัวมุม ประตูและผนังเป็นกระจก
ตลอดแนว 2 ด้าน มีรถราวิ่งไปมาตลอดเวลา พบว่าสามารถปิดวงรอบการสื่อสารกับครูสอนได้ตลอดเวลา 45 นาที
แม่ไม่ได้แจ้งอะไรครูเป็นพิเศษ เพียงแต่บอกว่าไม่เคยเรียนพิเศษกันเลยทั้ง 3 คน ก็สามารถสร้างสรรค์งานออกมาได้เป็นอย่างดี
แต่พอหลังจากผ่านไป 45 นาที เริ่มบอกครูว่าเมื่อยมือ ขอพัก ครูให้พัก 5 นาที แล้วกลับไปทำงานต่อได้ ครูอารมณ์ดี ใจดี
และไม่เครียด ทำงานกันเสร็จยังเดินมาคุยกับแม่ว่าต้องให้เค้าพัก เดี๋ยวแม่จะหาว่าไม่ได้งาน แม่ยิ้ม ตามสบายค่ะครู ไม่พูดอะไรมาก
แต่ในใจยิ้มกว้าง เจอครูถูกใจ และเห็นว่างานกล้ามเนื้อมัดเล็กยังมีอยู่พอสมควร เรียนเสร็จนั่งรอพี่ชายเรียนอูคูเลเล่อีกประมาณ
1 ชม. ซึ่งเห็นแล้วว่าคงเริ่มไม่ไหว เริ่มจะเดินไปเดินมา แม่ต้องเข้าไปเล่นด้วย เล่นแบบนัวเนียให้เค้าคลายเครียด แต่ไม่ใช่
คนเดียวนะคะ คนเล็กก็ออกอาการเหมือนกัน คงเบื่อกันแล้ว
5. พาไปงานวิ่ง 3 กม. วิ่งได้ดี แต่ตอนเริ่มต้นจะยังแสดงอาการล้าๆ ง่วง อยู่ เพราะตื่นเช้ามาก คนมาวิ่งเยอะ แต่งตัวกัน
ด้วยสีสันสะดุดตาหลายกลุ่มเพราะมีรางวัลนักวิ่งแฟนซี เสียงลำโพงดังตลอดเวลา และวิ่งบนถนนที่มีรถวิ่งมาเป็นระยะๆ แต่พอสักพัก
เครื่องติดวิ่งแรงแซงหน้าน้องและแม่ไปวิ่งเกาะกลุ่มกับพ่อแทน กลายเป็นว่าเจ้าน้องเข้าที่โหล่ แต่โชคดีอายุน้อย เลยได้ถ้วยอายุน้อย
ไปครองเฉย เจ้าตัวถามแม่ว่าทำไงได้ถ้วย แม่บอกต้องวิ่งเร็วกว่านี้ เจ้าตัวบอก "ไม่เอาก็ได้ เหนื่อย" ขำกันไป
6. ว่ายน้ำ จากวันอบรมที่บอกว่ายังไม่กล้านั่งบนโฟมลงสไลเดอร์ พอพาไปอีกครั้ง เจ้าตัวก็ขึ้นไปเล่นเองเลยโดยไม่
ต้องบอกหรือเชียร์ ตอนลงมาได้สีหน้าดีใจสุดๆ แล้วก็เล่นลงมาอีกหลายรอบ ดำน้ำและทรงตัวในน้ำได้ดีขึ้น มีอยู่ตอน เจ้าตัวจะอวด
พี่ชาย บอกให้พี่ชายดูนะ แล้วโยนโฟมลงไปในน้ำลึก จากนั้นก็กระโดดตู้มลงไป แม่เห็นแล้วรีบลงตามประกบ หลังจากรอสักพัก แม่
เลยช่วยหยิบโฟมให้เพราะยิ่งว่ายเข้าใกล้โฟมก็เขยิบออก พอหยิบโฟมให้เจ้าตัวก็ผลักออก แล้วพยายามว่ายไปหยิบเอง ถึงฝั่งคุยกัน
ก็เคืองๆ ที่แม่หยิบให้ เค้าจะอวดพี่ชาย ก็ขอโทษขอโพยกันไป มีอยู่วันหนึ่งเล่นน้ำกันอยู่ก็มีเพื่อนที่ รร มาเล่นด้วย เป็นเด็กผู้หญิง
ที่พูดเก่ง จัดแจง และตามติดประชิดตัว ก็เล่นกับเพื่อนและน้องได้อยู่ตลอดเวลา มีครั้งหนึ่ง เพื่อนลื่นสไลเดอร์ลงมา เจ้าตัวลงมาตาม
เพื่อนบอก "ทำไมไม่รีบลงมาเลย เรารออยู่นะ" เจ้าตัวตอบไปว่า "ก็เราไม่รู้นี่ ไม่เห็นบอกเราเลย" เพื่อนก็ยังยืนยันคำเดิม
เจ้าตัวก็ตอบเหมือนเดิมอีก แต่ดังขึ้นหน่อย แม่งี้แก้มแทบปริ ก็มีชวนเพื่อนไปเล่นโน่นเล่นนี่บ้าง เพื่อนชวนไปบ้าง บางครั้งเพื่อน
จูงมือก็มีแอบสะบัดมือออกเบาๆ แต่ก็เดินตามไปเล่น บางครั้งก็วิ่งตามกันไปขึ้นสไลเดอร์
7. ฝึกการฟัง ด้วยการให้ทำตามคำสั่งง่ายๆ และเล่นเป็นเกมส์ เช่น เด็ก 3 คน ขึ้นไปกระโดดบนแทมโพลีน แม่คอยเปิดเพลง
จากเปียโน ที่มีจังหวะ เร็ว แรง ดัง ให้เด็กกระโดดกันไป พอแม่ปิดเพลง ใครกระโดดลงมาได้ก่อนจะมีสิทธิ์สั่งให้คนอื่นทำท่าตาม
เล่นกันได้หลายรอบเหมือนกัน สนุกมากๆ เกมส์นี้เด็กๆ เป็นคนคิดกันเอง แล้วก็ช่วยกันคิดกติกาการเล่น
เล่นเกมส์ส่งลูกเทนนิส แม่เปิดเพลง หากปิดแล้วลูกเทนนิสอยู่ที่ใคร คนนั้นต้องวิดพื้น 5 ที ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าแม่บังเอิญปิด
เพลงในจังหวะที่ลูกเทนนิสอยู่ที่เจ้าตัวและน้องชายตลอด 555 ไม่ได้โกงนะเนี่ย
8. ฝึกการทำงานประสานมือตา พ่อโยนลูกแบตให้ตีในระดับสูงกว่าสายตานิดหน่อย ก็ทำได้ 10 ลูกตามที่ตกลง และได้รางวัล
ด้วยการวิ่งไล่จับกับพ่อ หลังจากที่โยนรับบอลขนาดต่างๆ ได้ในทิศทางต่างๆ ด้วย 2 มือได้ดีพอสมควรแล้ว
9. เตะบอลกับพ่อและพี่น้อง หากเตะเข้าโกลฝั่งพ่อครบ 5 ลูก จะได้รางวัลด้วยการวิ่งไล่จับกับพ่อ สังเกตดูว่าอารมณ์ฉุนเฉียว
ตอนเตะไม่เข้าสักทีเพราะอยากเล่นวิ่งไล่จับนานออกไป แต่ยังมีอยู่ในตอนท้ายๆ ของการเล่น ความแม่นยำและน้ำหนักการเตะดีขึ้น
การกะระยะให้เข้าโกลดีขึ้นเรื่อยๆ สามารถใช้เท้าหยุดลูกบอลที่วิ่งมาแล้วเตะบอลออกไปตามทิศทางได้ดีพอใช้ เกมส์นี้ได้ฝึกความ
ทนทานอารมณ์ด้วย เพราะพี่และน้องเป็นประเภทสีหน้า ท่าทาง น้ำเสียง กระตุ้นเร้าอยู่เกือบตลอดเวลา ต้องมีการปรามเบาๆ กันเป็นระยะ
เพราะไม่งั้นเจ้าตัวจะเลิกเล่นในเวลาไม่นาน และหากปรามแรง พี่กับน้องก็งอนไม่เล่นด้วย อืม งานหนักของพ่อกับแม่เลยทีเดียว 555
10. พาเปิดประสบการณ์ ขึ้นรถสองแถวไปซื้อของ หิ้วของขึ้นรถสองแถวกลับ เจ้าตัวมีหน้าที่กดกริ่งให้คนขับรถจอด พี่ชายมีหน้าที่ดูทาง
และบอกว่าต้องกดกริ่งเมื่อไหร่ เดินหิ้วของบนถนนที่ทั้งหนัก และทั้งร้อน
11. เมื่อเห็นว่าเค้าน่าจะล้า แม่จะเพิ่มการพูดคุย แหย่ ให้สนุกสนาน เล่นกัน บางทีเค้าก็ชวนเล่นสมมติเอง ก็สนุกดีค่ะ
การใช้ชีวิตดูมีทิศทางมากขึ้น มีกิจกรรมทำร่วมกันตลอดเวลา ยกเว้นเวลานอน แม่เองก็มองให้เป็นโอกาสในการฝึกลูกตลอด
อย่างเค้าชอบเอา putty มาเล่นเป็นด่านต่อสู้ สมมติกัน เล่นทุกวัน เล่นกับน้องบ้าง เล่นกับแม่บ้าง เล่นกับพี่ที่มาช่วยดูแลตอนพ่อแม่มาทำงานบ้าง
ก็ได้ทั้งการสมมติและกล้ามเนื้อมือ เพราะ putty สีเขียวค่อนข้างแข็งพอควร และได้ความหลากหลายของผู้เล่น
การพูดจาสื่อสาร ตอบโต้ได้ดี แต่การเล่าเรื่องยังดูไม่สมบูรณ์นัก ยังฟังดูห้วนๆ ไม่สละสลวย ต้องฝึกกันอีก
เมื่อวานตอนกลางวันถามว่าจะกินอะไร เจ้าตัวชอบกินไก่ทอด และตกลงกันไว้แล้วว่าเย็นนี้จะทอดไก่ป๊อบกินกัน ตอน
กลางวันแม่ชวนกินร้านอาหารที่มีไก่ทอด เจ้าตัวบอกไม่เอา กินบะหมี่ดีกว่า เพราะเดี๋ยวพ่อไม่ให้กินไก่ติดกัน 2 มื้อ เนี่ยตั้งใจ
กินไก่ป๊อบตอนเย็นมาก และก็ขี้เกียจโทรถามพ่อด้วยว่าจะให้กินหรือเปล่า (พ่อไม่อยู่) เคยอ่านเจอพัฒนาการระดับนี้ในหนังสือ
แต่กลับไปหาไม่เจอแล้วค่ะ คุณหมอช่วยบอกหน่อยนะคะว่าอยู่หน้าไหน แหะ แหะ แหะ
ก่อนนอน เจ้าตัวบอกไม่อยากฝัน เมื่อคืนฝันว่าโดนตุ๊กแกกัดนิ้วชี้ เลือดไหลเจ็บมา กลัวมาก เบะหน้าจะร้องไห้ แม่เลยถามว่า
ไหนเล่าให้ฟังสิฝันว่าอย่างไร เค้าก็เล่าว่ามีตุ๊กแกอยู่ที่หลังบ้านเป็น 100 ตัวเลย แล้วตัวหนึ่งกัดนิ้วเค้า เค้าเจ็บมากเลยใช้
"โล่แก้วหนาม" (อาวุธประจำตัวเค้าค่ะ) จัดการกับตุ๊กแกได้หมดเลย แล้วก็มีมนุษย์ต่างดาวตาเขียวเป็นเพื่อนเค้ามาช่วยด้วย
แม่กับพ่อก็ชมว่าเค้าเก่ง สามารถจัดการกับตุ๊กแกเป็นร้อยตัวได้ ก็ชื่นชมกันไป เค้าก็บอกอีกว่าไม่อยากฝัน พ่อเลยบอกว่าให้ลอง
คิดเรื่องดีๆ สิ อย่างเรื่องที่เล่นกันเมื่อกี้ไง สนุกดี แล้วก็เรื่องโน้นเรื่องนี้ สักพักเจ้าตัวก็พูดออกว่าถึงเรื่องดีๆ เอง มีเรื่องที่ไปพบ
คุณหมอกิ่งแก้วด้วยค่ะ แม่ถามว่าเป็นอย่างไร หาหมอแล้วเป็นไง เค้าบอกว่าสนุกดี แม่จะถามต่อ เค้าก็บอกเรื่องดีๆ เรื่องอื่นไป
ประมาณรู้ทันว่าเดี๋ยวแม่เจาะยาว แม่ก็เลยปล่อยเพราะเห็นว่าได้เวลานอนแล้ว
ในภาพรวมก็เห็นว่ายังมีอาการล้าให้เห็นอยู่ค่ะ แต่ก็ยอมรับด้วยว่า "จัดเต็ม" จริงๆ เลยกะว่าคงต้องเพิ่มเวลา FT กันอีกหน่อย
ณ ตอนนี้ก็วางแผนว่าจะเพิ่มเรื่องการฟังให้มากขึ้นอีกหน่อย แต่เป็นลักษณะค่อยๆ แทรกเข้าไปให้สนุกๆค่ะ กลัวเค้าจะล้าหนัก
ไว้เดี๋ยวมีความคืบหน้าอย่างไรจะมาเล่าให้ฟังอีกนะคะ ขอบคุณค่ะ
krongkan
 
โพสต์: 141
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 17 ต.ค. 2011 8:36 am

Re: ส่งการบ้านค่ะ

โพสต์โดย กิ่งแก้ว » อังคาร 09 เม.ย. 2013 1:51 pm

ส่วนใหญ่ก็ทำได้ดีนะคะ

มีแค่จุดเล็ก ๆ เรื่องเอาเบาะโฟมหนี โดยไม่ได้ตกลงกันก่อน อันนี้สุ่มเสี่ยงกับการสูญเสียความไว้วางใจ

แต่เรื่องมันเกิดแล้ว ก็ใช้ให้เป็นประโยชน์ไป ทำงานความรู้สึกกันไป ปลอบกันไป

ส่วนอีกเรื่อง คือเรื่องไปตลาดสด ช่วงนี้มันร้อนมากนะคะ

ที่ตลาดสด จัดเป็นข้อสอบไล่ เรื่องการทนกลิ่นของเด็กที่ไวความรู้สึกเลยล่ะค่ะ

คอยดูสมดุลไว้นะคะ อย่าจัดหนักเกินไป
กิ่งแก้ว
 
โพสต์: 865
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 07 ต.ค. 2011 6:48 pm

Re: ส่งการบ้านค่ะ

โพสต์โดย krongkan » อังคาร 09 เม.ย. 2013 2:29 pm

ขอบคุณค่ะ คุณหมอตอบไวเหมือนเคย
เรื่องโฟม แม่กลัวเค้าจมน้ำค่ะ ไม่ได้แกล้งเค้าหรืออยากให้เค้าว่ายไกลขึ้นหรอกค่ะ แต่เจ้าตัวอยากทำเองอวดพี่ เลยเคืองที่แม่ช่วย
ส่วนเรื่องอื่นจะดูภาพรวมและความพอดีไว้ค่ะ แล้วจะเก็บข้อมูลมารายงานความคืบหน้านะคะ
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
krongkan
 
โพสต์: 141
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 17 ต.ค. 2011 8:36 am

Re: ส่งการบ้านค่ะ

โพสต์โดย JackMom » จันทร์ 15 เม.ย. 2013 3:41 pm

ขยันจังหมวยเล็กชื่นชมอะ
อ่านแล้วรู้สึกสนุกไปด้วยท่าทางจะสนุกกันนะ :)
JackMom
 
โพสต์: 20
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ 30 พ.ย. 2011 8:13 am

Re: ส่งการบ้านค่ะ

โพสต์โดย krongkan » จันทร์ 01 ก.ค. 2013 12:07 pm

แวะมาเล่าค่ะ ช่วงนี้เป็นช่วงที่บ้านเราเริ่มเก็บเกี่ยวความหอมหวานระหว่างทางได้มากขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ คงเป็นเพราะมั่นใจมากขึ้นจากที่คุณหมอสอนวิธีการ
มองแบบแผนของเราทั้งหมด ทั้งพ่อ ทั้งแม่ ทั้งลูก ให้ชัดเจนขึ้น ความสงสัย คลุมเครือ ที่เป็นบ่อเกิดของความไม่มั่นใจและส่งผลต่อความไม่มั่นคง
ทางอารมณ์ของแม่ที่เป็นเหมือนหมอกควันปกคลุมบ้านเราก็ค่อยๆ จางหายไปค่ะ รู้สึกได้เลยว่าช่วงนี้ แม่และลูกสุขง่ายขึ้น ไม่โมโหง่ายบ่อยๆ รวมทั้ง
การเริ่มมองภาพรวมออกว่า ในช่วงเวลานี้แม่ขาดอารมณ์ขันไปไหม เครียดไปหรือเปล่า หรือเร่งรีบเกินไป ก็ปรับแต่งกันทุกวันค่ะ และเป็นการปรับแต่ง
ที่ตัวเองไม่รู้สึกว่าเหนื่อย รู้สึกว่าโอเค สบายๆ ตึงไปก็ผ่อน หย่อนไปก็ดึง สร้างสมดุลย์กันไปเรื่อยๆ ค่ะ
แม่สรุปการบ้านที่คุณหมอให้ไว้ 4 ข้อดังนี้ค่ะ
1. การพูดคุยกับเด็กอ่านเกมส์ออกเพื่อดึงขึ้นสุดระดับสัญลักษณ์ ซึ่งขอบอกว่ายากมากๆ เพราะเค้าจะรู้มุกแม่ตลอด ต้องคอยพลิกแพลงหาทาง
ตะล่อมเจ้าตัวแสบให้อยู่หมัด ทุกวันต้องลับสมองประลองปัญญากับลูกจริงๆ ค่ะ แต่ผลที่ได้รับคุ้มค่ามากๆ ค่ะ รู้สึกได้เลยว่าเค้าพูดจาเป็นเรื่อง
เป็นราว ไม่หลบหลีกตลอด ถ้าเรื่องนั้นไม่ยากจนเกินไปหรือไม่อยู่ในสภาวะอารมณ์ที่จะต่อกรกับแม่ ก็ยอมๆ กันไป แต่เหมือนว่าเราจะมีเรื่อง
ให้พูดคุยกันทุกวันบ่อยขึ้นๆ
2. การฟัง อันนี้สนุกค่ะ เราเล่นเป็นเกมส์กันตลอดเวลา โชคดีที่มีพี่น้อง 2 หนุ่มนั่นช่วยได้มาก เค้าจะคิดหาเกมส์มาเล่นกันตลอด ซึ่งได้ใช้
ทั้งทักษะการฟัง การดู ประสานตามือแขนขาและทั้งร่างกาย ทำได้ทักษะทั้งหมดของเด็กๆ ดูดีขึ้นมาก ผลพวงที่ตามมาคือ การชอบฟังนิทาน
การฟังได้ต่อเนื่องยาวนานยิ่งขึ้น การจับประเด็นเรื่องราวที่ดีขึ้น แม้ว่าจะยังไม่ดีมากนัก รวมทั้งอยากเป็นคนเล่านิทานเอง ได้ฟังนิทานที่เด็กๆ
แต่ง มั่วมั่ง งงมั่ง แต่สนุกดีค่ะ เป็นการปิดท้ายส่งวันเก่าที่มีความสุขสุดๆ ของบ้านเรา การพูดคุยโต้ตอบเวลาที่ลูกต้องการหรือไม่ต้องการอะไร
อย่างสนุกๆ (ตื๊อยื้อ) ก็ช่วยได้มากค่ะ อยากกินขนมสักห่อก็ต้องแลกกันหน่อย ได้ทั้งการสื่อสาร การคำนวณที่ดูจะติดๆ ขัดๆ อยู่ตลอด ก็คล่อง
ขึ้นจนน่าประหลาดใจ
3. การออกกำลังกาย ก็มีพาไปเรียนเตะฟุตบอลค่ะ อันนี้ได้อานิสงค์จากพี่ชายคนโต รายนั้นเค้าชอบฟุตบอลอยากเรียน เจ้าตัวเล็กจะเรียนตาม
พี่ เจ้าตัวกลางตอนแรกบอกไม่เรียน ไม่ชอบกลัวโดนเตะอัด แต่เห็นพี่กับน้องเรียน และอยากกินสปอนเซอร์ที่สนาม แม่บอกเค้าสำหรับคนเสียเหงื่อ
เจ้าตัวเลยเรียนเพื่อให้เสียเหงื่อ 555 ก็โอเค จัดไป เห็นได้ชัดค่ะว่าร่างกายแข็งแรงขึ้น ปราดเปรียวมากขึ้น ครั้งหลังสุดที่ไปเรียน แล้วท้ายชั่วโมง
ครูให้เล่นทีม เจ้าตัวออกมาบ่นว่าตัวเองได้เตะแค่ลูกเดียวเอง พี่ได้เตะตั้งเยอะ คราวหน้าจะไม่เรียนแล้ว เบื่อ ก็ได้โอกาสพูดคุยกันอีกเรื่อง
การออกกำลังกายอื่นๆ ก็มีแทรกไปในระหว่างเย็นในแต่ละวันค่ะ เพียงแค่อาจจะไม่ได้หนักหน่วงนักเพราะเวลาไม่อำนวย
4. ความมั่นใจในตัวเองและความมั่นใจในหมู่เพื่อนฝูง อันแรกพอได้ค่ะ เพราะแม่อาศัยเชียร์อย่างเดียว ทำได้มีรางวัลตลอด แต่ความมั่นใจใน
หมู่เพื่อนฝูงนี่ยังรู้สึกว่ายากที่สุดค่ะ เพราะเป็นสถานการณ์ที่เราควบคุมได้ยากและลูกเราก็ยังไม่เก่งพอที่จะต่อกรกับเด็กอื่นที่ปราดเปรียวได้
แต่ไม่หวั่นค่ะ ทำไปเรื่อยๆ สักวันมันต้องได้สิน่า จริงไหมคะ
เรื่องลายมือ อันนี้ครูบอกว่าตั้งแต่เปิดเทอมเลยว่า ขอเรื่องนี้อีกเรื่องครูจะสบายใจ แม่ก็ อืม ทำไงดีหว่า วิธีการให้หัดนั่งเขียนไม่ได้ผลแน่
เพราะจะได้แค่ทักษะเดียว แถมน่าจะเกิดศึกระหว่างเราแม่ลูกได้ง่ายๆ เลยได้ไอเดียจากการช่วยกันทำงานละเอียด เช่นทำกับข้าว ทำขนม
ที่ลูกอยากทาน ไม่ต้องเสียพลังในการชักชวนมากเลยค่ะ ได้ลูกมือตั้งแต่ผู้ช่วยจ่ายตลาด เลือกซื้อของกัน พูดคุยกันว่าอันไหนดีกว่ากัน
ช่วยกันหยิบช่วยกันคิด ช่วยกันทำ สนุกด้วยค่ะ เด็กๆ ชอบมาก แล้วก็ทานกันใหญ่เลย รวมถึงการทำงานบ้าน หรือการล่อหลอกให้ลูกเขียน
คำตอบลงบนกระดานไวท์บอร์ด ซึ่งปกติจะไม่ชอบเขียน แล้วก็ชื่นชมเฮโลกันทั้งบ้าน ดูเค้ามีความสุข ผลที่ได้ คุณครูมาบอกว่าเค้าเขียนได้สวยแล้ว
ถ้าตั้งใจทำจริงๆ ก็ได้มีโอกาสพูดคุยกันอีกว่าทำไมเขียนของวิชานี้สวย ทำไมวิชานั้นตัวอ้วนจัง เค้าบอกว่ารักครูคนนี้ ครูคนนั้นดุ แม่ก็ได้โอกาสอีก
ไปได้เรื่อยๆ ดูบรรยากาศสบายๆ มีความสุขค่ะ
ทั้งหมดทั้งมวลต้องขอบคุณคุณหมออย่างหมดหัวใจอีกครั้งค่ะ ใครจะมาช่วยดูบ้านเราได้ทั้งองค์รวมแบบนี้ ใครจะมาช่วยบอกช่วยเตือนว่า เฮ้ย
มันมากเกินไปแล้วนะ อันนี้มันน้อยเกินไปนะ แม่เยอะไปเปล่า พ่อละ โอเคยัง ช่วยถึงขนาดให้แม่ได้เข้าใจในตัวพ่อ และพ่อได้เข้าใจในตัวแม่
ซึ่งมันนอกเหนือจากการช่วยเหลือเด็กเพียงอย่างเดียว ช่วยบ้านเราทั้งหมดทั้งตัวและหัวใจขนาดนี้ ขอเป็นหนึ่งเสียงค่ะ ที่ขอแสดงความชื่นชม
ตื้นตันและให้กำลังใจคุณหมอแบบสุดลิ่มทิ่มประตูเลยทีเดียว และก็ขอยืนยันอีกครั้งว่าแม่จะทำหน้าที่ของแม่ให้ดีที่สุดที่จะนำพาลูกไปให้ถึง
จุดที่ลูกจะเดินต่อได้อย่างที่แม่จะสามารถ "นอนตายตาหลับ" ให้ได้ เพื่อเป็นการตอบแทนความทุ่มเทของคุณหมอและทีมงาน และทำเพื่อ
ครอบครัวของเราเองด้วยค่ะ
ปล ว่าจะเขียนสั้นๆ ยาวอีกแล้วค่ะ แหะ แหะ แหะ
krongkan
 
โพสต์: 141
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 17 ต.ค. 2011 8:36 am

Re: ส่งการบ้านค่ะ

โพสต์โดย กิ่งแก้ว » จันทร์ 01 ก.ค. 2013 12:41 pm

ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องดี ๆ ค่ะ ไม่ทราบทำไม เวลาคิดถึงหน้า "เจ้าตัวแสบ" ของคุณแม่ แล้วรู้สึกอยากดวลชั้นเชิงกับเขา ทั้งตลก ทั้งมันส์ เค้าร้ายมากจริง ๆ สายตาที่มองมา ท้าดวลกันชัด ๆ !!

วันไหนรับมือไม่ไหว ขอเสียงกระแอมจากคุณพ่อนะคะ รับรอง หยุดกื้ก

จากการแลกเปลี่ยนวันเสาร์ที่ผ่านมา คุณแม่คงจะพอมองออกว่านักบำบัดในทีมของเราเริ่มชำนาญในการมองภาพรวม และสามารถช่วยผู้ปกครองให้สามารถจัดสรรหน้าที่และใช้ทรัพยากรใกล้ตัวให้ได้ประโยชน์ต่อเด็กมากที่สุดได้เหมือนกันค่ะ
กิ่งแก้ว
 
โพสต์: 865
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 07 ต.ค. 2011 6:48 pm

Re: ส่งการบ้านค่ะ

โพสต์โดย krongkan » พุธ 03 ก.ค. 2013 8:55 am

ที่คุณหมอบอกว่า หยุดกึ๊ก เนี่ย หมายถึงแม่หรือลูกคะ วันนี้พ่อกับแม่ถกกันเรื่องนี้อยู่ 555 แม่คิดว่าหมายถึงแม่ แต่พ่อบอกว่าหมายถึงลูกค่ะ
krongkan
 
โพสต์: 141
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 17 ต.ค. 2011 8:36 am

ต่อไป

ย้อนกลับไปยัง ถาม-ตอบ



cron