ขอส่งการบ้านสักหน่อยนะคะคุณหมอ
หลังจากที่ดูดีวีดีประสานกิจกรรมของคุณหมอแล้วก็ทำให้เห็นภาพชัดขึ้นค่ะว่า กิจกรรมทั้งหลายที่เคยได้อ่านได้เห็นหรือแม้แต่
ในหนังสือคู่มือที่ทำตามกันมาเป็นเวลานานนั้น แต่ละกิจกรรมทำไปเพื่ออะไร ทำให้การทำกิจกรรมสำหรับครอบครัวมีเป้าหมาย
ชัดเจนไม่สะเปะสะปะค่ะ ได้ประโยชน์และชอบมากจริงๆ รวมทั้งจากการที่คุณหมออธิบายในดีวีดีนั้นก็ช่วยให้มีความเข้าใจ
ในหลายๆ เรื่องชัดเจนขึ้น ทราบว่าสิ่งใดควรเน้น สิ่งใดควรทำก่อน และจะทำสิ่งใดไปเพื่ออะไร ขอบคุณมากๆ ค่ะ
หลังจากที่ดูแล้วก็นึกร้อนวิชา ลองนั่งประเมินด้วยตัวเอง ก็พบดังนี้ (ไม่แน่ใจนะคะว่าถูกหมดหรือเปล่า)
ขั้นพัฒนาการลูกอยู่ระดับ 5-6 เวลาอยู่ด้วยกันมักจะพูดคุยกันที่ระดับ 6 เป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อโกรธ กลัว จะลงมาอยู่ที่
ขั้น 5 พูดจาสมมติจะทำร้ายด้วยความโกรธ แต่ก็ดึงขึ้นระดับ 6 ได้ไม่ยาก และยังทำงานรับมือกับความคับข้องใจตามที่
คุณหมอแนะนำมาอยู่ค่ะ พบว่าก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ
การเล่มสมมติเล่นเป็นเรื่องราวได้ สะเปะสะปะน้อยลงหลังจากที่ได้เห็นตัวอย่างที่คุณหมอพูดคุยกับเขาแล้วมาทำตาม ก็ตบเป็น
ก้อนๆ สรุปๆ ได้ชัดเจนมากขึ้น เรื่องราวการเล่นจึงเข้ารูปเข้าร่างมากขึ้น ลักษณะการเล่นขณะนี้เป็นการเล่นแบบมีการกำหนด
ตัวละคร จะทำอะไร และดำเนินเรื่องราวอยู่ในธีมได้พอใช้ สามารถแตกเรื่องราวออกไปได้ทั้งอารมณ์บวกและอารมณ์ลบ เช่น
เล่นเป็นคนขับรถไฟ ขับชนตัวละครอีกตัวแล้วพาไป รพ หาหมอรักษา ขณะเดียวกันก็แตกเรื่องราวว่ามีรถเสียจะเอารถไปซ่อม
ที่อู่ด้วยในคราวเดียวกัน คือพาไปให้เต็มโบกี้ มักชอบเล่นสมมติต่อสู้ จัดการกับปีศาจ ตั้งป้อมจัดฐานเอง เมื่อใส่อุปสรรคก็
สามารถคิดหาวิธีจัดการให้จนได้
ภาษากายชัดขึ้นมาก เวลาแสดงท่าทางโกรธหรือไม่พอใจแสดงออกได้อย่างสวยงาม หน้าตา ท่าทาง ฮึดฮัด กำมือกำหมัด
กระทืบเท้า โกรธมากๆ น้ำตาปริ่มไหล หน้าตาได้อารมณ์มากค่ะ
ลักษณะการเล่นกับพี่น้อง ขณะนี้เล่นตัวติดกันกับน้องอายุ 5 ขวบได้ทั้งวัน จากที่เมื่อก่อนน้องมักจะปฏิเสธที่จะเล่นกับพี่
ปัจจุบันเป็นคู่ซี้ทะเลาะกันได้เถียงกันได้ ฟ้องกันได้ น้องมีงอนแต่เจ้าตัวยังไม่เคยงอนให้เห็น มีแต่จะเฉยๆ โกรธๆ บอก
ไม่เล่นด้วยแล้ว และเดินหนีไป ง้อเป็น รู้จักหาพวก เช่นเมื่อน้องล้อหรือแซวแล้วตัวเองไม่ชอบก็จะเบี่ยงเบนน้องด้วยการชวน
น้องคุยเรื่องที่น้องชอบ แต่การสื่อสารยังไม่คล่องแคล่วเท่าน้อง แต่ร่างกายแข็งแรงนำน้องไปเยอะเหมือนกันค่ะ
การเล่นกับพี่ มักชอบเล่นเตะบอลด้วยกัน แต่จะจบลงด้วยความหงุดหงิดของเจ้าตัว บ่นว่าพี่ชายว่าเล่นแรง เตะอัด เค้ารับไม่ได้
โกรธ เลิกเล่น แต่หากพ่อเข้าร่วมเล่นด้วยจะเล่นได้นาน เพราะพ่อมีอารมณ์ขัน ชวนกันทำท่าสนุกๆ ตลกๆ และให้พี่กับน้องอยู่
ฝั่งเดียวกัน รุมเตะเข้าประตูพ่อ ก็จะเล่นได้นานมาก(เพิ่งได้รู้จากดีวีดีค่ะว่ายากเป็นลำดับท้ายๆ)
ลักษณะการเล่นกับเพื่อน เล่นรวมกลุ่มได้เกือบตลอดเวลา ถ้าการเล่นนั้นไม่ยากเกินไป มีตอบโต้เพื่อนที่คุ้นเคยด้วยภาษากาย
แต่เพื่อนที่ดูแรงๆ ยังดูเกรงๆ อยู่ ต้องมีแม่อยู่ประสานจึงจะเล่นด้วย และยังเล่นอยู่ได้ไม่นาน
ส่วนเรื่องการประเมิน 7 ระบบ พบว่า (ไม่แน่ใจนะคะว่าถูกหรือผิด)
1. เรื่องเสียง ไม่ค่อยมีปัญหากับเสียงความถี่ต่ำ ตัดผมด้วยบัตตาเลี่ยนได้ แต่เสียงแหลมสูงยังมีอยู่ เช่นถ้านั่งทานข้าวอยู่
แล้วมีเสียงเด็กร้องไห้จ้า จะหยุดฟังและถามถึงว่าใครร้อง ร้องทำไม เป็นอะไร ครั้งหน้าถ้าจะพาไปทานร้านเดิมก็บอกว่าจะไม่
ไปแล้วเพราะไม่ชอบเสียงเด็กร้องไห้ หนวกหู กลัว แต่เมื่อพูดคุยกันไปเรื่อยๆ ก็ยอมเข้าไป ถ้าน้ำเสียงพ่อหรือแม่ดุแม้เพียงนิด
ก็จะออกอาการโกรธทันที มากน้อยแล้วแต่ความแรงของน้ำเสียงและท่าทีพ่อและแม่ แต่พูดคุยกันได้แม้ในอารมณ์โกรธจัด
เคยไม่ยอมไปเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ รร ที่มีคนมาเต้นแอโรบิก รำพัดจีนเสียงดังพรึ่บพรั่บ ปัจจุบันอยู่ได้ เล่นกับกลุ่มเพื่อนได้
อย่างสบายๆ
ยังคงกลัวเสียงตุ๊กแกมากอยู่ แต่บอกได้ว่ากลัว ได้ยินเร็วกว่าทุกคน กลัวไม่กล้าไปในห้องคนเดียว กลัวเจอตุ๊กแต
บอกได้สื่อสารได้
กลัวเสียงดังที่กระทันหัน โป้งป้าง จะตกใจง่าย แต่สื่อสารได้
ก็เคยลองให้เล่นดอกไม้ไฟที่มีทั้งเสียง แสง ความเร็ว กลิ่น ก็เล่นได้ไม่กลัว กลัวพลุน้อยลง แต่ต้องอยู่ในระยะที่ไม่ใกล้มากนัก
เสียงประทัดก็กลัว ต้องออกไปไกลๆ หรือช่วยอุดหู เดี๋ยวคงได้ดูกันอีกทีค่ะ เพราะจะเริ่มเทศกาลเชงเม้งกันแล้ว
แต่ไม่พบการพยายามแสวงหาโอกาสเพื่อฟังเสียงต่างๆ ค่ะ
2. เรื่องภาพ ไม่แน่ใจว่าภาพที่คุณหมอหมายถึงนี่คือภาพนิ่งหรือเปล่าคะ หรือรวมภาพทุกอย่าง เพราะถ้าเป็นภาพนิ่งไม่พบ
ปัญหาค่ะ แต่ถ้าเป็นภาพเคลื่อนไหว เช่น น้ำที่ไหลจากสระใหญ่มาสระเล็ก หรือควันจากหม้อสุกี้ หรือภาพที่มีลักษณะไหลๆ พบ
ว่ามีการจ้องมองและกระตุ้นตัวเองบ้างค่ะ แต่ไม่ทุกครั้งเสมอไป และพบว่าการกระตุ้นนั้นน้อยลงเรื่อยๆ แต่ยังมีอยู่ ชอบมองหา
สะพานข้ามน้ำ ร่องน้ำ เวลาเดินทางไปในที่ต่างๆ
3. เรื่องสัมผัส ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาเพราะชอบให้กอด ชอบให้หอม ได้ทั้งเบาๆ และแรงๆ ไม่มีปัญหากับเรื่องเสื้อผ้า
แต่ถ้าเจ็บปวดหรือบาดเจ็บจะกังวลบ้าง บางเวลา จะพูดถึง ชี้ให้ดู ถามถึงการบาดเจ็บที่เหมือนกันของคนอื่นอยู่บ่อยครั้ง
4. เรื่องกลิ่น พบว่าช่วงที่ผ่านมาดมมือตัวเองบ่อย เวลากินอะไรเมื่อส่งเข้าปากแล้วก็จะดมนิ้วตัวเอง มือโดนอะไรก็ดม ดมบ่อย
แต่พบว่าเริ่มลดลงบ้างแล้ว เวลาจะทานอะไรจึงมักให้เขาดมก่อน ว่านี่ กลิ่นเป็นแบบนี้นะ ก็ดมได้ไม่มีปัญหา
5. การเคลื่อนที่ พบว่าสามารถเดิน วิ่ง ได้เป็นอย่างดี วิ่งเร็วที่สุดในบ้าน ขี่จักรยานคล่องแคล่วเกินหน้าพี่และน้อง แต่เรื่องเต้น
ยังคงไม่ลื่นไหลมากนัก
6. เมื่อให้เล่นเกมส์หรือกีฬาใหม่ๆ พบว่าเกมส์นั้นเรียนรู้ได้ หากได้รับคำแนะนำเพิ่มเติม แต่กีฬานั้น ยังทำได้แต่ขั้นตอนง่ายๆ
7. กล้ามเนื้อมัดเล็ก พบว่าทำได้บางเวลา เขียนหนังสือตัวยังใหญ่และหวัด หากเขียนนานจะยิ่งเละ แต่ถ้าเขียนไม่นาน เขียน
เรื่องที่ชอบจะเขียนได้ดี วาดรูปตามแบบ ยังทำได้ไม่ดีนัก ขาดสัดส่วนและรายละเอียดที่ดี วาดรูปตามที่ชอบจะวาดได้ลื่นไหล
วาดเป็นนักรบต่อสู้ สายน้ำ สะพาน บ้านเรือน ลักษณะภาพมักมีการเคลื่อนไหวอยู่ในที เช่นวาดภาพต่อสู้ก็จะมีตัวเอก มีตัวศัตรู
และมีการต่อสู้แบบปล่อยพลังและศัตรูตาย เหมือนภาพสโลโมชั่น การจับช้อนยังไม่ทะมัดทะแมง
8. คำศัพท์ใหม่ๆ พบว่าชอบเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ ยิ่งถ้าทำให้สนุกจะชอบมาก
9. เรื่องหาของ มีความพยายามหา แต่หาเรื่อยเปื่อย
10.การทำตามคำสั่งหลายขั้นตอน พบว่าทำได้บางเวลา
11.ความสามารถในการสร้าง ประกอบ ประดิษฐ์ พบว่ามีความพยายามที่จะทำ แต่ยังทำได้ไม่ดีนัก
สรุปแล้ว โดยรวมคิดว่างานที่ต้องเน้นคงเป็นเรื่องภาพและเสียงที่มีความแรง เร็ว ดัง การเคลื่อนไหว ที่ยังต้องเก็บเรื่อง ทิศทาง
มุม ความเร็ว กีฬา มิติสัมพันธ์ ที่ต้องทำให้ขึ้นมาอยู่ในระดับที่ดีกว่านี้ ส่วนเรื่องอื่นก็เสริมเติมไปตามเรื่อยๆ เช่นกันค่ะ มีงานต้อง
ทำอีกมากเลยทีเดียว
ทั้งนี้ก็พยายามไล่ตามเก็บกิจกรรมทั้งหมดที่คุณหมอให้มาค่ะ ซึ่งจริงๆ ก็ต้องบอกว่าทะยอยทำมาอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่มีจุดหมาย
แต่ตอนนี้ชัดเจน เห็นทาง แน่วแน่และมั่นใจขึ้นมากเลยค่ะ
ส่วนงานบ้านนั้น ที่บ้านแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบค่ะ เด็กๆ ทุกคนมีหน้าที่เก็บผ้า พับผ้า ล้างจาน เตรียมเสื้อผ้าที่จะใส่ไป รร หรือ
ไปธุระเอง อาบน้ำ เช็ดตัว แต่งตัวกันเอง เก็บที่นอนตัวเอง ถูสบู่เสื้อนักเรียนและถุงเท้าของตัวเอง ช่วยขยี้น้ำ ถูบ้าน เอาขยะไปทิ้ง
เช็ดโต๊ะ เวลาจะไปเที่ยวก็จะเก็บเสื้อผ้ากันเองโดยมีแม่ช่วย หิ้วเป้ของตัวเองเดินทาง ซื้อของตามห้างมีหน้าที่หาของ เข็นรถ
หิ้วของมาที่รถ พ่อแม่เดินตัวปลิว 555 สั่งอาหารที่อยากทานเอง ต้องการอะไรให้ขอจากพนักงานในร้านเอง เรียกเก็บเงินเอง
เดินทางท่องเที่ยวกันค่อนข้างบ่อย พบว่าโดยสารด้วยเครื่องบินได้ง่ายขึ้น จากที่ครั้งแรกจะร้องปวดหูตลอด ครั้งที่ผ่านมาผ่านไปได้
เป็นอย่างดี
ลักษณะความกังวล ตอนนี้กลัวไม่อยากนอนฝัน เพราะฝันร้ายกลัวว่าจะเป็นจริง แม่ก็ช่วยด้วยการพูดคุย และสอนให้สวดมนต์ นั่งสมาธิ
ทำสมาธิเพื่อให้จิตใจผ่อนคลาย ได้ผลค่ะ ไม่ใช่ได้ผลเรื่องฝันนะคะ แต่ชอบนั่งสมาธิ นิ่งได้ประมาณหนึ่ง แต่ยังมียุกยิกๆ อยู่บ้าง
ก็ขำๆ ดีค่ะ เวลาเค้านั่งพยายามหลับตานิ่งๆ แต่ตากลิ้งไปกลิ้งมา เกร็งเปลือกตา ตลกดี
เขียนซะยาวเลยค่ะ การบ้านส่งคุณหมอ
ขอบคุณค่ะ