พัฒนาการของน้องเพชร

[siravee]

2 วันที่ผ่านมารู้สึกว่า ตัวแม่เองจะสามารถ ใช้การกำกับวินัยลูก ได้เข้าใจขึ้นคะ
เช่น พี่เพชรโกรธ จะตีคุณยาย แม่ก็จะบอกเพชรรู้สึกโกรธ แต่ตีคุณยายไม่ได้
หรือตอนที่เล่นกัน ปาป๋า ชอบเล่นเป็นฝ่ายตรงข้าม มาแกล้งแม่
พี่เพชร ก็จะบุกตะลุยจริง เข้ามาทุบตัว ชกหัวบ้าง ซึ่งแต่ก่อน เราจะยอม
แต่ตอนนี้ก็จะ บอกลูก เล่นกันไม่ตีจริง เป็นต้นคะ
ปัญหาอีกอย่างของตอนนี้คือ การ์ตูนฮิต เบ็นเท็น ซึ่งลูกได้มาจากการไปโรงเรียนคะ
จะมาบอกความต้องการ อยากได้เสื้อ กระเป๋า รองเท้า ทุกอย่างแม้แต่แปรงสีฟัน
ยาสีฟัน ซึ่งอันนี้ คุณแม่ ก็จะสะท้อนอารมณ์ อยากได้เนอะ ทำไม เพราะอะไร มีอะไรบ้างที่อยากได้
ทำอย่างไรจะได้ เอายังงัยดี..... สารพัด จนล่าสุด แกไปได้ DVD เบ็นเท็นจากปาป๋าซื้อให้
พอเห็นเท่านั้นละคะ อาการดีใจจนออกนอกหน้าเลย หัวเราะเสียงดัง วิ่งโชว์คนนั้น คนโน้น
แม่ก้สะท้อนอารมณ์ ดีใจมากเลย.... ดีใจ ถูกใจสุดๆ
แล้วก็ตามมาด้วยปัญหาที่สำคัญคือ ตื้อให้เปิดแม่ก็พยายามยื้อ ก็จะต้องจบลงด้วยการเปิดวันละครั้ง
ประมาณ 30 นาที แม่ก้จะพยายามหาเรื่องมาชักชวนจนปิดได้ แต่พอตอนที่เป็น DVD มันจะยาว แม่ก็เริ่ม
ต่อรอง วันนี้ให้ดู 2 ตอน บ้าง 3ตอนบ้าง เมื่อวานก็ต่อรองกันมาในรถ พูดกันไปกันมา พี่เพชร ก็พูด
แม่ไม่ต้องพูดแล้ว เพชรโกรธ แม่แล้ว แม่ไม่ให้ดูซักที....( แม่รู้สึกดีใจที่ลูกบอกอารมณ์ความรู้สึกออกมาตรงๆ)
แม่ก็มองหน้า เห็นลูกหันมามองเหมือนจะประเมิน ว่าแม่จะรู้สึกอย่างไร แต่แม่ก็เลยพยักหน้าแล้วบอกแม่รู้เพชรโกรธ
แต่ตอนนี้แม่ก็ยังให้ดูไม่ได้ พี่เพชรก็เริ่มทำเสียงหงุงหงิง แม่ก็บอกเอาไว้ดูเมื่อถึงบ้าน..............
ตอนที่เป้นดนตรีเริ่มเรื่องทุกครั้งลูกจะวิ่งๆ กระโดดอยู่กับที่ตลอด แม่ก็สะท้อนเพชรสนุก ดนตรีมันสนุก เป็นต้น
พอเพลงจบแม่ถามทำไมลูกต้องวิ่ง เพชรก็จะตอนว่าเพชรสนุก วันหลังๆ แม่ก้พยายามถามว่าเพลงสนุกแล้วทำท่าอื่นอีกได้ไหม
ลูกก็บอกว่าเพชรชอบวิ่ง บางครั้งก่อนเพลงจะมาลูกก็จะหันมาบอกว่า เพชรจะวิ่งตอนเพลงมา แม่ก็พยายามใส่ว่า วิ่งแล้วโยกแขนไปด้วยได้ไหม.........อย่างน้อยลูกก็ได้ออกกำลังขาเพราะถ้าชวนออกกำลังตรงๆ จะไม่ยอม อ้างว่าเมื่อยหรือเหนื่อยคะ

[กิ่งแก้ว]

ดิฉันคิดว่า เขากระโดด ทุกครั้งที่เขาตื่นเต้น

ลองทำงานความคิดกันตรงนั้นต่อก็ได้ เพลงนั้น เพลงนี้เป็นไง น่ากระโดดไหม

วันก่อนเห็นกระโดด ตอนไม่มีเพลงนี่ ต่างกันตรงไหนล่ะ กระโดดแบบวันนั้น กับกระโดดแบบวันนี้ ฯลฯ

ก็มีเรื่องให้คุยกันอีก

[siravee]

สวัสดีคะ.....ช่วงที่ผ่านมา เด็กๆป่วย พึ่งออกจาก รพ.กันมา
เป็นช่วง เวลาของการทำงาน อารมณ์กันมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกินยา ไม่เช็ดตัว ไม่วัดปรอท
ส่วน การเล่นสมมติ ก็ยังคงน่าจะอยู่ในระดับเดิมอยู่คะ ยังไม่ยอมให้แม่เล่นเป็น ปิศาจ หรือ ผู้ร้าย แม้กระทั่ง
เล่นเป็นครูผู้ชาย เหตุผล ลูกก็จะบอกไม่ชอบ มันน่ากลัว เสียงดุ แม่ก็บอกงั้น เป็นผู้ชายเสียงเล็กได้ไหม
ลูกก็จะไม่ยอม..... ก็สังเกต ว่า เวลาลูกไปโรงเรียน ถ้าคุณครูผู้ชาย เป็นเวร หน้าประตู ก็จะไม่ยอมทำความเคารพ
จะรีบเดินเร็วๆ แม่ก็เข้าใจคะ ก็จะตรวจสอบความรู้สึกลูก ลูกก็บอกไม่ชอบครูผู้ชาย ครูมีหนวด บางทีแม่ก็บอก
ถ้าครูโกนหนวดแล้วละลูก ลูกก็บอกยังไม่ชอบอยู่ดี ทั้งๆที่คุณครูก็ยิ้มให้นะคะ และลูกก็ยังไม่เคยเรียนด้วย แต่แม่ก็คง
ต้องพยายามต่อไป ดีแล้วที่ลูกยอมเดินผ่านไป
อีกปัญหาที่ตามมาคือ เมื่อก่อนลูกจะชอบอยากไปโรงเรียน แต่หลังจากป่วย หยุดเรียนมา 2 สัปดาห์ ก็ไม่อยากไปโรงเรียน
แม่ก็พยายามหาสาเหตุ ลูกบอกว่า ไม่ชอบกินข้าวโรงเรียน ไม่อยากล้างมือ คุยกันไปเรื่อยๆ ก็พบว่าน่าจะเป็นเรื่องไม่อยากล้างมือ เพราะนำมันไหลแรง ก็สรุปว่าวันนี้ ก็ยังไม่ไปโรงเรียน แต่แม่ไม่ได้กังวลเรื่องการไม่ไปโรงเรียนนะคะ แต่ที่กังวลเพราะอยากหาสาเหตุ วันนี้ก็เลย วางแผนกับคุณยายว่า ช่วงที่อยู่กับคุณยาย ช่วยพาเล่น นำ พากันล้างมือ เปิดนำแรงๆแล้วดูว่าลูกจะเป็นอย่างไร กกลับไปตอนเย็นแม่ก็จะไปลองอีก แล้วก็จะพาทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับการสัมผัสสิ่งต่างๆ เช่น เล่นทราย ปั้นดินนำมัน
คั้นนำผลไม้ด้วยมือ แล้วจะลองสังเกตดูคะ.........

[siravee]

ช่วงเย็นกลับมา คุณยายรายงานว่า ทดลองแล้วน่าจะกลัวตอนที่เปิดนำแรงๆจากก๊อกล้างมือ.....
แม่ก็เลยลองดูอีก พากันเล่นๆ สนุกนอกบ้าน พอจะเข้าบ้าน ชวนล้างมือที่ก๊อกหน้าบ้าน
พี่เพชร ก็เข้าไปเปิดเอง แต่เปิดค่อยๆ พอถึงคิวน้องสาวล้างมือบ้าง พอเปิดนำแรงๆ พี่เพชรก็รีบถอยออก
แม่ก็บอก เพชรไม่ชอบนำแรงๆ งั้นเปิดแค่นี้เบาๆ ได้ไหม พี่เพชรก็บอกได้.......
แม่ก็ชวนคุย เล่นกัน ก็เริ่มมีประเด็น ไม่ไปโรงเรียนอยากดู CD เบ็นเท็นอย่างเดียว ซึ่งเก็บอยู่ในกล่อง สะสมของพี่เพชร เอง
เราพากันเรียกว่ากล่องสมบัติ ซึ่งในตอนเช้า แม่เอาไปซ่อน โดยบอกว่า พี่เพชรชอบดูอย่างเดียว ผิดข้อตกลงไม่ไปโรงเรียน แม่ไม่อนุญาติให้ดู
( ว่าจะกำกับวินัย ซึ่งเดิมมีข้อตกลงกันว่าให้ดูได้ 1-2 ตอน หลังกลับจากโรงเรียน ทำการบ้าน อาบนำ แล้ว)
พอช่วงเย็นเข้าบ้าน พี่เพชรก็ถามหากล่องสมบัติ แม่ก็บอกว่า แม่ไม่อนุญาติให้เพชร เพราะเพชรไม่ไปโรงเรียน
พี่เพชรก็พยายามตื้อ ก็พูดคุย ทำงาน อารมณ์ กันตลอด มาเรื่อยๆ จน อาบนำ ทานข้าวเสร็จ ก็ยังตื้อวนเวียนพูดกันเรื่องกล่องสมบัติ กับเรื่องไม่ไปโรงเรียน
เพราะไม่อยากล้างมือ มีอยู่ช่วงพาเข้าสู่การเล่นสมมติ " ไม่ชอบเลยก๊อกล้างมือ จะจัดการเลย ...... "แม่ก็สนับสนุน" เอาเลย เอาไงดี "
พี่เพชร " จะเตะมันเลย เอาฆ้อน มาทุบ ให้แตกๆ " แม่ " เออทุบให้แตกเลย เอา แตกแบบไหน ก้อนใหญ่ๆ หรือละเอียดเลย "
พี่เพชร " ทุบๆๆๆให้ ละเอียดเลย " ก็จะคุยกันได้ประมาณนี้คะ
แต่ก็ตัดสินใจได้แล้วว่า ช่วงนี้คงยังไม่ให้ไปโรงเรียน แล้วก็เล่น และคุยกันไปก่อน คะ

[siravee]

ช่วง 2 วันมานี้ ก็พยายามพูดคุย และพากันทดลองให้ลูกเปิด นำที่ก๊อกล้างมือ บ่อยๆโดยที่ช่วงนี้ก็ยังไม่ได้ไป โรงเรียนค่ะ
ตอนนี้ลูกก็สามารถทำได้ ก็ว่าจะพยายามชวนกันทดลองเปิดและล้างมือโดยเพิ่มระดับ
ความแรงของนำขึ้นเรื่อยๆ เพราะรู้ว่าลูกกลัวถ้าเปิดนำแรงๆคะ โดยลูกจะบอกได้ว่าไม่ชอบมันแรงไป
ได้อ่านทบทวน เรื่องของพ่อแม่กลุ่มที่ลูกเข้าโรงเรียน ก็พอได้ไอเดียที่จะต้องนำไปปรับกับลูก
ในส่วนของพี่เพชร เวลาไปโรงเรียนยังไม่ค่อยกล้าที่จะเล่นกับเพือนๆ ในลักษณะกลุ่ม แต่ถ้าเล่นเดี่ยวก็จะพอได้คะ
ตอนนี้ ก็พยายามพาลูกไปเล่นสนามเด็กเล่น บางครั้งก็ไปบ้านเพื่อนที่มีลูกวัยใกล้เคียงกันคะ ลูกก็สามารถเล่นกันได้ดี
ที่โรงเรียนก้จะสามารถเล่นกับเด็กผู้หญิงได้ ยังไม่ค่อยเล่นกับเพื่อนผู้ชาย
อีกเรื่องคือการออกกำลัง ออกแนวขี้เมื่อย บ่นเหนื่อยเร็ว ต้องคอยหามุขมากระตุ้นให้ลูกอยากทำจึงจะสามารถทำได้มากขึ้น
อย่างวันก่อน พี่ข้างบ้านให้หมวกใส่เล่น แม่ก็บอกเนี่ยคือหมวกสามารถใส่แล้วมีพลัง โดยพี่ๆก็สนับสนุนช่วยกันเชียร์
ได้ผลวันนั้นปั่นจักรยานได้หลายรอบ พอรุ่งขึ้น ก่อนจะไปออกกำลังกาย พี่เพชรก็รีบวิ่งไปหยิบหมวกสามารถ แม่ถามเอาไปทำไมลูก พี่เพชรตอบว่าหมวกสามารถของเพชร จะใส่ขี่จักรยาน.......
เรื่องการรับประทานอาหาร เริ่มดื่มนมได้เพิ่มขึ้น จาก รสช็อกโกแล็ต และวนิลา เพิ่มรสหวาน มีการขอลองเองเช่น กินแบรนด์เด็กรสช็อกโกแล็ตได้ นมตราหมีรสไวน์มอลต์ นำส้ม เป็นต้น โดยเวลาจะเริ่มของใหม่ๆ ลูกก็จะขอดมกลิ่นก่อนคะ

[กิ่งแก้ว]

ปลื้มแล้ว..ไปต่อค่ะ

[siravee]

ช่วงเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา พี่เพชรมีอาเจียน 7 ครั้ง ทานอะไรไม่ได้เลย
แม่พาไปหาหมอ จะฉีดยาให้ ลูกก็กอดแม่ แล้วพยายามใช้คำพูดทุกอย่าง
เพราะลูกกลัว ไม่อยากให้หมอตรวจ ไม่อยากให้ฉีดยา และให้นำเกลือ เช่น
"ไปเลย ไม่ต้องมายุ่ง เพชรกลัว ....พี่หมอไปเลย ไม่อ้าปาก เพชรไม่ฉีดยา
อย่ามายุ่ง ไปไกลๆเลย ฉีดยามันเจ็บนะ" ตลอดเวลา แม่ก็พยายามทำงานอารมณ์ " หนูกลัว แม่รู้
แม่อยู่ด้วย หนูกลัว...." ตอนนั้นก็รู้สึกสงสารลูก แต่ก็ดีใจที่ลูกยังคงการสื่อสารได้ตรงกับเหตุการณ์ตลอด
พอมาเมื่อวานนี้ ลูกมีการบ่น และต่อว่า " ปาป๋า ไปทำงานไม่บอกเพชรเลย ปาป๋านี่เว้ย..."
แม่ก็ " เหรอลูก ปาป๋า ไปไม่บอกเพชรเลยเหรอ แล้วเพชรรู้สึกยังไง "
พี่เพชร " อยากให้ปาป๋า อยู่ด้วย "
แม่ " พี่เพชรไม่อยากให้ปาป๋าไป อยากให้อยู่ด้วย "
พี่เพชร " อยากให้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา เป็นครอบครัว"
แม่ " เป็นครอบครัวต้องทำยังไง"
พี่เพชร " เป็นครอบครัว มีแม่ พี่เพชร ปาป๋า น้องพราว "
แม่ " อยากอยู่พร้อมหน้ากัน เพชรรู้สึกยังงั้ยเวลาอยู่พร้อมหน้ากัน "
พี่เพชร " มีความสุข " สีหน้ายิ้มเขินๆด้วย
แม่ " งั้นทำยังไง ปาป๋าถึงจะรู้ "
พี่เพชรทำท่าคิด
แม่ " จะโทรศัพท์หา ปาป๋า หรือจะรอให้ปาป๋ากลับมาก่อน " ( ปาป๋าทำงานต่างจังหวัด มาเดือนละครั้ง 2-3 วัน )
พี่เพชร " โทรคุยกะ ปาป๋า ".........................
ตอนกลางคืนเล่นสมมุติกัน มาชวนแม่เล่นต่อสู้ แต่พอแม่เล่นเป็นฝ่ายตรงข้ามก้ยังไม่ค่อยยอมเท่าไร
แต่ถ้าเล่นให้ลูกได้ชนะแบบง่ายๆ เช่นใช้ฝ่ามือดันพลัง ออกแรงนิดหน่อย แล้วแม่กระเด็นแพ้ ก็จะยอม แต่จะรีบพูดดักคอไว้ว่า
ห้ามแม่ฟื้นขึ้นมา เป้นตัวร้าย ให้เล่นเป็นตัวใจดี ตอนหลังเปลี่ยนมาให้แม่เล่นเป็นน้องเล็ก ให้พูดเสียงเล็กๆ แม่ก็เลย เล่นเป็นน้องทำอะไรไม่เป็น พี่เพชร ก้ช่วยอาบนำ ใส่เสื่อ ป้อนข้าว พาเข้าห้องนำ แม่ได้โอกาส ก็เลยเล่นว่ามือน้องเลอะ พี่เพชรก็ช่วยพาไปล้าง ทำท่าเปิดนำ พร้อมทำเสียงนำไหล แม่ก็แกล้งบอกนำแรงน้องกลัว พี่เพชรก็บอกนำไม่แรง พี่เปิดค่อยๆ ก็เล่นกันหลายรอบ
พอแม่แกล้งบอกอยากเปิดนำแรงๆ พี่เพชรก็เปิดให้ได้คะ.......แต่พอตอนเช้าอาบนำแกล้งปิดแรงๆ บอกกลัว ตกใจ ไม่ชอบ
ก็คงต้องพยายามกันต่อไปคะ

[siravee]

หลังจากที่ ยอมไปโรงเรียนมาได้ 2 วันแล้ว
วันนี้ แอบถามครูพี่เลี้ยงว่า พี่เพชรยอมล้างมือไหม
ครูบอกว่า พาไปล้าง และเปิดนำค่อยๆ ก็สามารถเปิดปิดก็อกนำได้เอง คุณครูก็สังเกตว่า ก่อนหน้านี้ถ้าเปิดนำแรงๆ จะไม่กล้าปิดเอง
วันนี้ พี่เพชรปิดเองได้แล้วแต่ต้องเปิดเบาๆ พี่เพชรที่เล่นอยู่ห่างๆ รีบเข้ามาบอกคล้ายอวดว่า
" พี่เพชรเปิดนำล้างมือเอง แล้วปิดเองด้วย "
แม่ " เหรอครับ โอโห้ ไม่กลัวแล้วนะเนี่ย ยอดไปเลย " ลูกก็ยิ้มเขินคะ ก็น่าจะมีแนวโน้มในทางที่ดีขึ้น
สำหรับการเล่นสมมติก็ ยังไม่ยอมให้แม่เล่นเป็นฝ่ายตรงข้ามคะ แต่แม่ก็พยายามแหย่ ไปเรื่อยๆ คะ

[siravee]

สวัสดีคะ....หายไปนาน ตอนนี้พี่เพชรขึ้น ป.1 แล้วคะ
จากที่เคยอ่านๆของท่านอื่น ตอนนี้เริ่มเจอปัญหาเข้าแล้วคะ
เรื่องเพื่อนแกล้ง เพื่อนๆรุมสั่งให้ลบงานที่ทำ ( ครูสั่งให้พี่เพชรทำเพิ่มคนเดียว ) เพื่อนตี
ก็พยายามเล่นสมมติในสถานการณ์ต่างๆที่ลูกเจอ ใส่เหตุ ใส่ผลไปเรื่อยๆ ทำงานอารมณ์เมื่อลูกนอนร้องไห้ ด้วยความกังวลกลัวเพื่อนสั่งให้ลบงานอีก
ตลอดจนพาเล่นสมมติหาวิธีจัดการเพื่อนที่มาแกล้ง
ล่าสุดก่อนเข้านอน ลูกพูกว่า จะไปบอกครูขอย้ายที่นั่ง ไม่อยากนั่งกับเพื่อนคนนี้แล้ว
แม่ " เหรอ แล้วถ้าครูถามว่าทำไมถึงย้าย "
พี่เพชร " เพื่อนชอบรังแกเพชร "
แม่ " ถ้าครูถามว่ารังแกอย่างไร "
พี่เพชร " เพื่อน เคยตีเพชร เพราะเพชร ไม่มียางลบให้ยืม เพื่อนเคยว่าเพชรอวดเก่งทำการบ้านมาก่อน เพื่อนชอบเอาดินสอ ไม้บรรทัดเพชรไปโยนทิ้ง ...."
แม่ " หลายอย่างเลย ไม่ชอบเลยเนอะ "
พี่เพชร " วันนี้ก็จะมาเอากล่องดินสอเพชร ไปโยน เพชรบอกไม่ให้โยน เพื่อนก็จะมาแย่ง เพื่อนอีกคนไปฟ้องครูให้ "
แม่ " เหรอลูก "
พี่เพชร " แม่ไปบอกครูที เพชรอยากย้ายที่"
แม่ " แล้วพี่เพชรอยากนั่งกับใคร"
พี่เพชรก็บอกชื่อเพื่อนผู้ชายที่ แม่พอรู้ว่าเป็นเด็กที่ไม่ค่อย เกเร แม่ก็เลยถามว่าแล้วที่เพื่อนที่นั่งอยู่ก่อนเค้าไม่อยากย้ายจะทำงัย
แล้วถ้าเพื่อนคนเก่าตามมาแกล้งอีกจะทำงัย ......จนสุดท้ายเล่นสมมติกันคิดวิธีไปจัดการเพื่อน วางแผนให้เพื่อน ๆในห้องดักตามจุดต่างๆ เพื่อจับเพื่อนคนที่เกเรมาให้พี่เพชร.....แต่พอแม่ถามว่าแล้วพี่เพชรจะจัดการอย่างไรต่อ ก็บอกให้ปล่อย แล้วไปดักจับมาใหม่ ทำอยู่ 3-4 รอบ แล้วก็บอกแค่นี้นะแม่ เพชรนอนก่อน....
แม่ก็แอบหวั่นๆ เหมือนกัน ว่าลูกเริ่มด้วยโจทย์ที่ยากไปหรือไม่ เพราะเพื่อนคนนี้ เป็น หัวโจกประจำห้อง......แต่ก็คิดว่าถ้าให้ลูกย้ายก็คงเป็นการถอยหนี......แต่ถ้าลูกจะเลือกวิธีย้ายที่ ลูกก็ต้องมีความกล้าที่จะไปพูดกับครูเองใช่ไหมคะ.......ตัวเราคงต้องทำใจให้เข็มแข็งทั้งๆที่บางทีเราเห็นเพื่อนๆที่ลูกเค้าปกติ เค้าก็จะเข้าไปจัดการให้ลูกเลย ประกอบเสียงของคุณตาคุณยายที่สนับสนุนให้ไปบอกครูให้ย้ายให้ด้วยความสงสารหลาน ........ต้องใช้สติและสมาธิอย่างมากเลยคะ

[กิ่งแก้ว]

ถ้าการขอย้ายที่ เป็นไอเดียของเขา

และเขามาขอให้แม่ไปพูดกับครู

หมอก็คิดว่าน่าจะพอเพียงแล้วที่จะช่วยเหลือเขา

แต่การคาดหวังให้เด็ก ป. 1 ไปพูดกับครูเอง อาจจะเยอะไปหน่อย

แต่ตรงนี้ ก่อนไปพูด อาจจะทำงานความคิดล่วงหน้าได้อีกหน่อย ถ้าครูไม่ให้....ถ้ายังตามมาแกล้ง

จะป้องกันอย่างไร

แต่ถ้าดูแล้ว เค้าเครียดมากแล้ว ก็ลงมือช่วยเค้าเถอะค่ะ

เค้าเพิ่งขอแบบนี้ครั้งแรก อย่าคิดไปไกลนักนะคะว่าต่อไปเค้าจะติดใจขอแบบนี้ไปเรื่อย ๆ