สมาชิกใหม่ขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ คุณแม่เครียดมาก

[waranuch]

คือจะขอเล่าความเป็นมาก่อนนะคะ ครอบครัวเราเป็นครอบครัวเดี่ยวอยู่กัน 3คน พ่อแม่ลูก พ่อและแม่ทำงานนอกบ้านทั้งคู่ แต่โชคดีที่แม่ลาเลี้ยงลูกได้นาน 10 เดือน ตอนเด็กลูกก็พัฒนาการดีตามวัยไม่มีอะไรผิดปกติ พอแม่มาทำงานก็จ้างคนที่อยู่คอนโดข้างๆเลี้ยง เค้ามีลูกชายอายุมากกว่าลูกเรา 5 เดือนเป็นลูกครึ่งอังกฤษ แล้วสามีเค้าที่เป็นคนอังกฤษก็ช่วยเลี้ยงด้วย ตอนที่เจอกันแรกๆ ลูกเคยโดนลูกชายเค้าตีเค้าก็จะกลัวๆทำให้เค้าไม่ชอบเล่นด้วยแต่จะชอบเล่นกับสามีคนเลี้ยงเพราะตัวโตคล้ายพ่อแล้วพี่สาวเราเค้ามีสามีเป็นคนออสเตรเลียเค้าก็จะชอบสอนให้หลานพูดภาษาอังกฤษแต่เค้านานๆจะกลับมาเยี่ยมที ตัวแม่เองก็คิดว่าเป็นสิ่งที่ดีที่จะปลูกฝังเรื่องภาษาก็เลยสอนและพูดกับลูกเป็นภาษาอังกฤษ ก็อยู่กับเค้าประมาณ 8 เดือน แม่ก็ย้ายพาลูกมาอยู่ nursery ที่ทำงาน คุณแม่ทำงานที่ รพ รัฐบาลแห่งหนึ่ง แล้วที่ nursery เค้าจะมีคุณหมอพัฒนาการเด็กมาประเมินทุกเดือน แล้วเมื่ออาทิตย์ที่แล้วลูกก็ได้รับการประเมิน คุณหมอบอกลูกชายเป็นออทิสติก คือแม่ร้องไห้ต่อหน้าหมอเลย คือช็อกมากค่ะ คุณหมอเค้าก็พูดว่า คุณแม่คิดว่ายังไงหรือคุณแม่รู้อยู่แล้วว่าลูกผิดปกติเพราะคุณแม่จะต้องรู้อยู่แล้ว คือพูดตรงๆคุณแม่ไม่คิดว่าอาการที่ลูกเป็นจะถึงขั้นออทิสติก อาการของลูกชายคือพัฒนาการทั่วไปดีมาก กล้ามเนื้อมัดใหญ่มัดเล็กไม่มีปัญหา ทำได้หมด เดิน วิ่งขึ้นลงบันได ปีนป่าย บิดลูกบิด เป็นเด็กอารมณ์ดี ร่าเริง แต่เค้ายังไม่ยอมพูด พูดคำสั้นๆไม่กี่คำเ่ชน papa ,doggy ,birdy แล้วเวลาคนเรียกจะไม่หันแต่อันนี้ก็แล้วแต่ว่าใครเป็นคนเรียกเค้า ถ้าพ่อเรียกหัน 80% แม่เรียกหัน50% แต่ถ้าคนไม่รู้จักหรือสนิทจะหันไปหาน้อยมาก และก็ไม่ยอมสบตาเป็นส่วนใหญ่ คือสบตาบ้างแล้วแต่คนเหมือนกัน คือตอนที่คุณหมอประเมินนี่เค้าประเมินใน nursery คุณแม่และคุณพ่อไม่ได้อยู่ด้วย คุณหมอที่ประเมินเค้าบอกเคยเจอลูกชายเราครั้งนี้เป็นครั้งที่2 พอวันนั้นคุยกับหมอเสร็จก็โทรบอกสามี สามีต่อว่าเราเลยว่าจะบ้าเหรอก็เห็นอยู่ว่าลูกปกติเดี๋ยวเค้าก็พูดเองแหละ เราก็อธิบายว่าลูกไม่ยอมสบตาไม่หันมันไม่ใช่แค่ไม่ยอมพูด ยิ่งอธิบายสามียิ่งโมโห แต่เค้าเองก็เป็นสามีและพ่อที่น่ารักมาก ถึงแม้จะไม่เห็นด้วยแต่ก็ปรับเปลียนพฤติกรรมหลายอย่างทันที งด tv ipad โทรศัพท์ ทุกอย่างไม่ให้ลูกดู แต่ก่อนจะให้ลูกดูค่อนข้างเยอะมาก พูดคุยและเล่นกับลูกมากขึ้น พูดกับลูกช้าๆชัดๆ ซึ่งผ่านไป 1 อาทิตย์ลูกเรียกpapaบ่อยขึ้นเรียกเอง เรียกแม่ พูดได้เพิ่มขึ้น 2-3 คำแล้วเมื่อวานก็พาลูกไปประเมินพัฒนาการซ้ำ ไปทั้งพ่อและแม่เลย หมอก็ให้ลูกชี้รูป แมว ม้า นก หมา และคน ตอนแรกหมอพูดไทยเค้าไม่ยอมชี้แต่พอบอกเป็นอังกฤษชี้ได้หมด แต่ก็ยังสบตาไม่เต็มที่ แต่อย่างอื่นเค้าทำได้หมด หมอก็ยังวินิจฉัย suspected authism ให้ส่งตรวจการได้ยิน การมองเห็น นัดคลินิคพัฒนาการเด็กซึ่งได้คิวเดือน ตุลาโน่นเลยค่ะ สามีบอกไม่ตรวจอะไรแล้วก็เห็นอยู่ว่าเค้ามองเห็นเรียกก็ได้ยิน ถ้าเป็นคลินิกพัฒนาการอยากพามาก็พามา แต่อย่างอื่นไม่เอาด้วยแล้ว เฮ้อ พิมพ์มายาวมากอยากรบกวนผู้มีความรู้และประสบการณ์ช่วยให้คำแนะนำด้วยค่ะว่าคุณแม่ควรจะเริ่มยังไงดี

[กิ่งแก้ว]

คงเริ่มที่ใจตัวเองก่อนกระมังคะ

ตอนนี้ยังอยู่ในภาวะ "หมอน่าจะตรวจลูกของฉันไม่ถูก"

สองจิตสองใจ.ใจหนึ่งก็กลัวว่าหมอจะตรวจผิด ใจหนึ่งก็กลัวว่าหมอจะตรวจถูก

เมื่อไร สงบใจแล้ว ลองอ่านกระทู้ใกล้ ๆ กันนี้นะคะ

อารมณ์ใกล้เคียงกันทั้งนั้น

สำหรับดิฉัน....คำวินิจฉัยไม่ค่อยสำคัญเท่ากับปัญหาความขัดข้องของเด็ก

เอาเป็นว่าทักษะสัมพันธภาพของเด็กกับพ่อแม่ ที่ดิฉันจะค่อนข้างสบายใจ ไม่ใช่การที่พ่อแม่เรียกแล้ว ลูกมาหา

แต่เป็นการแสดงความกลัวในสิ่งที่ควรกลัว แสดงสีหน้ากลัวเป็น และเมื่อตกใจกลัว เขาสามารถวิ่งจู๊ดมาหาให้พ่อแม่กอดค่ะ

[Jamessiki]

สู้ๆ ครับ ผมว่าลูกคุณคงไม่เป็นอะไรหรอกฮะ

[Suparak]

ใช้ครับผมจะเอาใจช่วยคุณนะครับผมว่าทุกอย่างคงผ่านไปได้ด้วยดีนะครับ

[พ่อน้องเฌอแตมครับ]

จะบอกว่าไม่ให้เครียดคงไม่ได้นะครับ (เหมือนผมช่วงแรกๆเลยครับ เครียดมากๆ ห่วงโน่น ห่วงนี้ คิดไปเสียไกลเลย)

ค่อยๆอ่านเนื้อหาต่างๆใน web นี้ครับ ดึงความเครียดมาเป็นพลังครับ (เครียดพอประมาณ แล้วดึงตัวเรากลับมาให้ได้ไวๆ)

รับรองครับคุณแม่จะค่อยๆมองเห็นทางที่กว้างขึ้นและชัดขึ้นๆอย่างแน่นอนครับ...ผมเคยเดินผ่านทางนี้มาก่อนแล้วครับ

สู้ๆนะครับ