สำหรับดิฉันเองได้มุมมองในแง่ที่ว่า บางพฤติกรรมที่เราคิดว่าแตกต่างจากคนอื่น
แล้วทุกข์กังวลว่าจะแก้ไขกันอย่างไร บางครั้งหากส่งเสริมให้ถูกทาง เด็กคนนั้นก็มีที่ยืนในสังคม
เราหามันเจอหรือเปล่า หรือพยายามจะแก้ให้มันหายไปอย่างเดียว
และพฤติกรรมที่เราพยายามจะให้ลูกเลิกทำ เพราะคิดว่ามากไป มันมากไปจริงหรือไม่ วัดด้วยอะไร
กลัวคนอื่นจะเห็นว่าลูกเราแปลก กลัวว่าคนอื่นๆจะยอมรับลูกเราได้ไหม ต้องแก้ไข
แต่ทำไม สิ่งที่คล้ายๆกัน คนอื่นทำ เรากลับเห็นว่า เออมันก็แปลกจากคนอื่นบ้างน่ะน่ะ แต่ก็รับได้ ไม่เห็นเป็นไรนี่
ดังนั้นสิ่งที่เรารู้สึกทุกข์อึดอัดน่ะ มันมากเกินไปจริงๆ หรือเป็นเพราะใครแสดงพฤติกรรมนั้นต่างหาก
ชอบภาษากายที่ไม่ตรงกับคำพูดมาก
เราเองก็น่าจะเคยเป็น แม่เข้าใจครับ แม่เข้าใจว่าหนูอยากได้ แต่หน้าเนี่ยคงจะประมาณว่า ฉันเริ่มเบื่อแล้วนะ
เด็กในคลิปที่แสดงภาษากายได้ชัดตรงกับอารมณ์ พอเป็นเด็กอื่น เราเห็นถึงการสื่อสาร ถึงจะอยู่ในอารมณ์ด้านลบ
เห็นความสวยงามที่อยู่ในนั้น
แต่เด็กของเราพอจะแสดงอารมณ์ ของเริ่มขึ้น สีหน้าท่าทางเริ่มออก พยามยามอธิบาย โน้มน้าวเรา น้ำเสียงเริ่มเปลี่ยน
แล้วเราเองหรือเปล่าที่ฝ่ายไม่อนุญาตให้เขาแสดงออก มันไม่สุภาพ ก้าวร้าว ท้าทาย ดื้อ เถียง
เพราะจริงๆแล้ว คือเราเองก็กลัวจะคุมสถานการณ์ไม่ได้
ชอบที่อาจารย์สื่อสารกับเด็กๆ การชวนคุย การอดทนรอ การชี้ให้เห็นประเด็นต่างๆ ทบทวนสิ่งที่เขาพูดหรือแสดงออก
ช่วยให้เขาเข้าใจว่า เขากำลังรู้สึกอย่างไร เป็นอะไร เข้าใจตัวเองและคนอื่น
คลิปในวันนั้น ดิฉันไม่รู้สึกอึดอัด ซึ่งหากเป็นเมื่อสัก 2-3 ปีก่อน ผ้าเช็ดหน้าคงเปียกไปหลายผืน
ได้เห็นและชี่นชม เด็ก ผู้ปกครอง ที่ฝ่าฟันไปด้วยกัน เรียนรู้ไปด้วยกัน
เห็นภาพสะท้อนของการไม่เข้าใจกัน ทุกข์กันทั้งเด็กและผู้ปกครอง
เก็บเอาไว้ เตือนตัวเองค่ะ
สุดท้าย คุณหมอคะ แม่คงไม่ต้องกังวลที่ตัวแสบเดินเท้าเปล่าไปทั่วสนามหน้าบ้าน โรงรถ
ไถสกูตเตอร์ ขี่จักรยานเท้าเปล่า แล้วใช่ไหมคะ
เพราะไม่แน่ หากไปแก้ไขเรื่องเท้าเปล่า
เราอาจจะสูญเสีย ว่าที่นักวิทยาศาสตร์เท้าเปล่า เหมือนในคลิปไปก็ได้นะคะ